'ปูติน' พร้อมลงนามหยุดยิงยูเครน ถ้าแผนสันติภาพขั้นสุดท้ายคืบ

'ปูติน' พร้อมลงนามหยุดยิงยูเครน ถ้าแผนสันติภาพขั้นสุดท้ายคืบ

แหล่งข่าวเผย 'รัสเซีย' พร้อมลงนามข้อตกลงหยุดยิงยูเครน ถ้าแผน 'สันติภาพขั้นสุดท้าย' คืบ จะต้องไม่มีกองกำลังนาโตอยู่บนผืนแผ่นดินยูเครน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในมอสโกว่า ประธานาธิบดี "วลาดิมีร์ ปูติน" ของรัสเซีย "ยินดีที่จะหารือเรื่องการสงบศึกชั่วคราวในยูเครน หากมีความคืบหน้าในการหาข้อยุติสันติภาพขั้นสุดท้าย" 

ท่าทีดังกล่าวซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวกครั้งแรกจากปูติน ถึงข้อตกลงหยุดยิงตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเรียกร้อง มีขึ้นในการเจจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียและสหรัฐที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าว 2 รายที่เกี่ยวข้องระบุด้วยว่า "เพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิง จะต้องมีการทำความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับหลักการกรอบข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้าย" ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายเสริมว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียยืนกรานว่าจะต้องมี "การกำหนดขอบเขตของภารกิจรักษาสันติภาพ" ซึ่งครอบคลุมถึงข้อตกลงว่าจะมีประเทศใดบ้างที่เข้าร่วม 

รายละเอียดดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นในขณะที่สหรัฐและยูเครนวางแผนที่จะพบกันอีกครั้งที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้า สำหรับการเจรจาโดยตรงครั้งแรกนับตั้งแต่การพบกันที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทรัมป์ได้ทะเลาะกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี และกลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก  

สตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐกล่าวว่า การประชุมกันที่จะมีขึ้นในซาอุฯ มีเป้าหมายเพื่อบรรลุ "กรอบข้อตกลงสันติภาพและการหยุดยิงเบื้องต้น"

ในเวลาต่อมาทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า เขากำลังผลักดันข้อตกลงเพื่อยุติการสู้รบ และมั่นใจว่าปูตินเองก็ต้องการข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน "ผมคิดว่าเขาจะใจกว้างกว่าที่ควรจะเป็น" 

"ผมคิดว่าเราทำได้ดีมากกับรัสเซีย ... แต่ตอนนี้พวกเขากำลังโจมตียูเครนอย่างหนัก" ทรัมป์กล่าวและเสริมว่า "พูดตรงๆ นะ ผมว่าการจัดการกับยูเครนนั้นยากกว่ารัสเซียเสียอีก"

ความเห็นล่าสุดของทรัมป์มีขึ้นหลังจากเจ้าตัวโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อเช้าวันศุกร์ โดยขู่ว่าจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและเก็บภาษีสินค้านำเข้าใหม่กับรัสเซียเพื่อกดดันให้เครมลินยอมรับข้อตกลงสันติภาพ

ทางด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน ได้แถลงในวิดีโอประจำวันว่า “วันนี้ การทำงานที่เข้มข้นที่สุดกับทีมของประธานาธิบดีทรัมป์ดำเนินไปตลอดทั้งวันในทุกระดับ”

“หัวข้อนี้ชัดเจน: ให้มีสันติภาพโดยเร็วที่สุด และมีการรับประกันความปลอดภัยที่เชื่อถือได้มากที่สุด” เขากล่าว “ยูเครนมีท่าทีที่สร้างสรรค์มาก”

ขณะที่ฝั่งโฆษกรัฐบาลเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ตามที่บลูมเบิร์กร้องขอไป 

สันติภาพแบบไหนที่รัสเซียต้องการ 

แหล่งข่าว 2 รายเปิดเผยว่า รัสเซียเคยกล่าวว่า "จะไม่ยอมรับการมีกองกำลังนาโตอยู่บนดินแดนยูเครน" โดยปฏิเสธข้อเสนอของประเทศในยุโรปที่จะจัดตั้ง “แนวร่วมพันธมิตรที่เต็มใจ” เพื่อช่วยติดตามข้อตกลงสันติภาพใดๆ แต่รัสเซียไม่คัดค้านประเทศต่างๆ ที่เป็นกลาง เช่น "จีน" ในการส่งกองกำลังไปยังยูเครนท่ามกลางความขัดแย้ง

ก่อนหน้านี้ ปูตินเคยปัดข้อเสนอของทรัมป์ในการยุติสงครามโดยเร็วซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยในระหว่างการแถลงข่าวประจำปีในเดือนธ.ค. 2567 เขากล่าวว่า “เราไม่ต้องการการสงบศึก เราต้องการสันติภาพ ระยะยาว ยั่งยืน พร้อมการรับประกันสำหรับสหพันธรัฐรัสเซียและพลเมือง”

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รัสเซียปฏิเสธแผนสันติภาพเป็นเวลา 1 เดือนของฝรั่งเศสและอังกฤษ ที่ครอบคลุมถึงการปฏิบัติการทางอากาศและทางทะเล รวมถึงการหยุดโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. เขาได้พลิกนโยบายของสหรัฐที่มีต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เพื่อพยายามยุติสงครามที่ดำเนินมายาวนาน 3 ปี ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่เลวร้ายที่สุดของยุโรปในรอบ 80 ปีโดยเร็ว

ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับปูตินเมื่อเดือนที่แล้ว และทั้งคู่ก็ตกลงที่จะจัดการประชุมสุดยอดร่วมกัน แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอนก็ตาม ทรัมป์ยังได้ยุติการสนับสนุนของสหรัฐต่อกรณีที่ยูเครนจะเข้าร่วมนาโต และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐหลายคนยังกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยู่บนหลักความจริง ที่จะคาดหวังให้ยูเครนได้ดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองไปตั้งแต่ปี 2014 กลับคืนมาได้ทั้งหมด

หลังจากการเผชิญหน้ากับเซเลนสกีที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ได้ระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนและระงับการแบ่งปันข่าวกรองบางส่วนด้วย ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับพันธมิตรในยุโรปที่กล่าวว่าเป็นเหมือนการตบรางวัลให้รัสเซียที่เริ่มทำสงครามรุกรานยูเครนในเดือนก.พ. 2022

ที่มา: Bloomberg