‘อายที่จะใช้รถ Tesla’ คนอเมริกันแห่คว่ำบาตร ตอบโต้มัสก์ปลดคนตามใจชอบ

‘อายที่จะใช้รถ Tesla’ คนอเมริกันแห่คว่ำบาตร ตอบโต้มัสก์ปลดคนตามใจชอบ

‘Tesla’ เข้าสู่ช่วงตกต่ำครั้งใหญ่ ถูกคว่ำบาตรทั่วทั้งสหรัฐและยุโรป ผลจากมัสก์แห่ปลดคนอย่างไม่เป็นธรรม แทรกแซงกิจการต่างประเทศ และการแสดงท่าที่ถูกมองว่าคล้ายสัญลักษณ์นาซี จนผู้คนต่อต้าน

KEY

POINTS

  • ผู้ใช้รถ Tesla ที่รู้สึกอายกับพฤติกรรมมัสก์ ได้ติดสติ๊กเกอร์ “I bought this before Elon went crazy” ที่ท้ายรถ
  • หากรวมพนักงานรัฐในสหรัฐทั้งที่ถูกปลดออก และยอมลาออกเพื่อจะได้เงินก้อนเลิกจ้าง จะสูงถึง “หลักแสนคน” ซึ่งสูงมากในเวลาไม่ถึง 50 วันที่ DOGE เข้าทำงาน 
  • ยอดจดทะเบียนรถเทสลาใหม่ในยุโรป “ลดลง 50%” ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยการลดลงนี้ “สูงกว่า” ยอดจดทะเบียนอีวีโดยรวมที่ลดลง 5.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน

“เทสลา” (Tesla) รถยนต์ไฟฟ้า ที่เคยครองใจชาวอเมริกัน มาบัดนี้เข้าสู่ “ยุคตกต่ำครั้งใหญ่” เกิดกระแสคว่ำบาตรแบรนด์นี้ทั่วทั้งสหรัฐ อีกทั้งคริสเตีย ฟรีแลนด์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศลั่นจะ ขึ้นภาษีรถ Tesla 100% ลูกค้ายุโรปพากันต่อต้าน ไม่ซื้อแบรนด์รถนี้ จนกด ราคาหุ้น Tesla ให้ร่วงกว่า 40% นับตั้งแต่จุดสูงสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม

เจนนิเฟอร์ เทร็บ ผู้ขับรถ Tesla โมเดลวายเผยว่า แต่เดิมเคยชอบรถแบรนด์นี้ เพราะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และดีใจที่ได้เป็นเจ้าของสิ่งที่ล้ำสมัยและแตกต่าง แต่ไม่นานมานี้ เทร็บ “เปลี่ยนใจ” หันไปเข้ากลุ่มเจ้าของเทสลาที่ประกาศขายรถของตน โดยคนในกลุ่มให้เหตุผลว่า ค่านิยมและจุดยืนทางการเมืองของอีลอน มัสก์ ทำให้พวกเขารู้สึกห่างเหินยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบทบาทของมัสก์ในรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งถูกมองว่า “วางอำนาจเหนือรัฐบาลกลาง”

กระแสไม่เอา Tesla ที่ดังกระหึ่มทั่วสหรัฐ เกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์เข้าเล่นการเมืองแบบเต็มตัว แม้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ตาม ในฐานะหัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลหรือ “กระทรวง DOGE” ซึ่งได้ปลดพนักงานรัฐออกไปเป็นจำนวนมากหลายหมื่นคน โดยไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจน แต่ใช้ “การส่งอีเมล” ให้พนักงานรัฐระบุผลงานตนเองในสัปดาห์นั้น

หากไม่ตอบกลับก็ถือว่าลาออก ซึ่งการคัดคนจากการตอบอีเมลก็ไม่ได้หมายความว่า ตอบเอาใจมัสก์แล้วจะหมายถึงทำงานดี หรือหากเลือกไม่ตอบ เพราะรายละเอียดงานเกี่ยวพันทางความมั่นคง ก็ไม่ได้หมายความว่าควรถูกไล่ออก

ไม่เพียงเท่านั้น การปลดคนของ อีลอน มัสก์ ที่ทำอย่างรวดเร็ว ยังก่อข้อผิดพลาดไม่น้อย อย่างการลดบุคลากรสำคัญที่พยากรณ์อากาศและภัยพิบัติ ผู้ตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่โครงการอาวุธนิวเคลียร์ เจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้และเฝ้าระวังไฟป่า ฯลฯ จนบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างกังวล “คุณภาพ” ของระบบราชการสหรัฐนับจากนี้ แม้ว่ารายจ่ายรัฐจะลดลงก็ตาม

ที่สำคัญคือ หากรวมพนักงานรัฐทั้งที่ถูกปลดออก และยอมลาออกเพื่อจะได้เงินก้อนเลิกจ้าง จะมีจำนวนรวมกันสูงถึง “หลักแสนคน” ซึ่งถือว่าสูงมากในระยะเวลาไม่ถึง 50 วันที่กระทรวง DOGE เข้าทำงาน 

ด้วยเหตุนี้ ศูนย์บริการลูกค้าและโรงงานผลิตของ Tesla จึงตกอยู่ท่ามกลาง “การประท้วง” จากพนักงานรัฐที่ไม่พอใจต่อการปลดที่ไม่เป็นธรรม

‘อายที่จะใช้รถ Tesla’ คนอเมริกันแห่คว่ำบาตร ตอบโต้มัสก์ปลดคนตามใจชอบ ‘อายที่จะใช้รถ Tesla’ คนอเมริกันแห่คว่ำบาตร ตอบโต้มัสก์ปลดคนตามใจชอบ - การประท้วงมัสก์และ Tesla (เครดิต: Reuters) -

เมื่อ Tesla ไม่ใช่แค่รถ แต่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง

นอกจากเรื่องปลดพนักงานรัฐอย่างไม่มีแบบแผนแล้ว มัสก์ยังแสดงท่าชูมือขวาขึ้นฟ้า 2 ครั้ง หลังพิธีสาบานตนของทรัมป์ โดยบางส่วนมองว่าคล้ายท่า “Sieg Heil” หรือท่าแสดงความเคารพแบบนาซี ประกอบกับมัสก์ยังสนับสนุนพรรคฝ่ายขวาที่ชื่อ AfD ในเยอรมนีแบบเปิดเผยด้วย ซึ่งดูเหมือนการแทรกแซงกิจการต่างประเทศ จนจุดกระแสวิจารณ์อีลอนอย่างเผ็ดร้อน

‘อายที่จะใช้รถ Tesla’ คนอเมริกันแห่คว่ำบาตร ตอบโต้มัสก์ปลดคนตามใจชอบ - ท่าชูมือขวาขึ้นฟ้าของมัสก์ (เครดิต: Reuters) -

เทร็บ ในวัย 54 ปี นักบำบัดครอบครัวและเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตเล่าว่า เธอตัดสินใจแลกเปลี่ยน Tesla ของเธอกับรถ Mercedes ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปแทน โดยยอมรับมูลค่าเพียง 32,000 ดอลลาร์ จากราคาเดิมที่ 55,880 ดอลลาร์ แม้ว่า Tesla ของเธอจะวิ่งไปเพียง 16,000 กิโลเมตรก็ตาม

เธอเผยว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นขณะไปซูเปอร์มาร์เก็ต Kroger ในสหรัฐ

“สองสัปดาห์ก่อน ฉันถูกเรียกว่า ‘นาซี’ ที่ลานจอดรถ” เธอกล่าว “ฉันกลับถึงบ้านแล้วบอกสามีว่า พอแล้ว ฉันเลิกแล้ว”

“ฉันรู้สึกอายที่จะให้ใครเห็นว่าฉันขับรถคันนั้น” เทร็บกล่าว พร้อมกับบอกว่า เธอได้ติดสติ๊กเกอร์กันชนที่เขียนว่า “ฉันซื้อคันนี้ก่อนที่อีลอนจะบ้าคลั่ง” (I bought this before Elon went crazy) ซึ่งเป็นสติ๊กเกอร์ที่ได้รับความนิยมในตอนนี้

‘อายที่จะใช้รถ Tesla’ คนอเมริกันแห่คว่ำบาตร ตอบโต้มัสก์ปลดคนตามใจชอบ - สติ๊กเกอร์ I bought this before Elon went crazy (เครดิต: centrojuanaazurduy) -

ไม่เพียงแต่สมาชิกพรรคเดโมแครต ดร.คุมัยต์ จาโรจ อายุ 40 ปี สมาชิกพรรครีพับลิกันจากเมืองวูสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ใช้รถ Tesla Cybertruck สีทองมูลค่า 113,000 ดอลลาร์ พร้อมโฆษณาธุรกิจแพทย์ด้านความงามของเขา โดยติดสติกเกอร์ข้อมูลติดต่อไว้ที่ด้านข้างของรถ เพื่อดึงดูดความสนใจ แต่ไม่นานมานี้ เขากลับเผชิญการต่อต้านอย่างรุนแรง จนจำเป็นต้องถอดข้อมูลเหล่านั้นออกจากรถ

“นี่แย่มากจริงๆ หลังจากวันสาบานตน” ดร.จาโรจกล่าว

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ดร.จาโรจ ซึ่งเป็นผู้อพยพชาวซีเรียเล่าว่า ตัวเขาได้รับข้อความข่มขู่ทางโทรศัพท์ที่คลินิก เขาจึงต้องแจ้งความกับตำรวจ อีกทั้งคลินิกของเขายังได้รับรีวิวทางออนไลน์ในเชิงลบจำนวนมากอีกด้วย

ดร.จาโรจกล่าวว่า พยายามติดต่อ Tesla เกี่ยวกับการแลกรถ Cybertruck แต่ไม่สำเร็จ และเขาวางแผนที่จะขายรถคันนั้นแทน

ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนว่า แม้ว่ารถ Tesla จะเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย แต่การตลาดที่ “ผูกโยงแบรนด์กับตัวบุคคล” อย่างแนบแน่น จนเมื่อเอ่ยถึง Tesla ก็ปรากฏภาพของ “อีลอน มัสก์” ขึ้นในความคิด ต่างจากแบรนด์รถยนต์อื่น ๆ ที่ผู้คนอาจไม่รู้จักเจ้าของ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ธุรกิจ Tesla ผันแปรไปตามภาพลักษณ์ของมัสก์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้แต่ลูกค้ายุโรปก็คว่ำบาตร Tesla

สำหรับ “ตลาดยุโรป” มัสก์ได้ก่อความไม่พอใจขึ้น เมื่อสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายขวาทั่วยุโรปอย่างชัดเจน ซึ่งค่อนข้าง “ขัดต่อธรรมเนียมการไม่แทรกแซงกิจการของกันและกัน” ประกอบกับการที่มัสก์เป็นคู่หูประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อสหรัฐ “ขู่ขึ้นภาษี” กับสหภาพยุโรปหรือแม้แต่กระทั่งพันธมิตรเก่าแก่อย่างสหราชอาณาจักร ก็ไม่ได้รับการยกเว้น ส่งผลให้สินค้าจากสหรัฐ โดยเฉพาะรถ Tesla ก็ถูกต่อต้านตามไปด้วย และในตอนนี้ ตัวแทนจำหน่ายรถ Tesla ทั่วทั้งยุโรป กลายเป็นเป้าหมายของการประท้วง

ที่ผ่านมา มัสก์ได้จุดกระแสความโกรธในเยอรมนี และทำให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของโปแลนด์เรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรแบรนด์นี้ หลังจากที่เขาไปพูดในที่ชุมนุมของพรรคฝ่ายขวา AfD ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 กุมภาพันธ์

อันที่จริง ความชื่นชอบแนวคิดฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้าย “ไม่ใช่เรื่องผิด” แต่การที่มัสก์ซึ่งมีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายของทรัมป์ เข้าไปแทรกแซงกิจการของประเทศอื่นๆ นั้นอย่างชัดเจน กลับทำให้หลายคนมองว่าเป็นการวางตัวที่ไม่เหมาะสม

ตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรประบุว่า จำนวนจดทะเบียนรถใหม่ของเทสลา “ลดลง 50%” ในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยการลดลงนี้ “สูงกว่า” ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมที่ลดลง 5.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งสะท้อนว่ายอดขายรถ Tesla ลดลงกว่าค่ายอื่นมาก

พอล อันวิน อายุ 67 ปี นักเขียนและผู้กำกับที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรกล่าวว่า ตัวเขายอมจ่ายค่าธรรมเนียมยกเลิกสัญญาล่วงหน้าราว 500 ปอนด์หรือราว 21,000 บาทในเดือนธันวาคม ในการยกเลิกสัญญาเช่ารถเทสลาโมเดล Y เพื่อประท้วงมัสก์

“ผมโทรไปหาบริษัทเช่า และบอกว่า ผมอยากให้คุณเอารถคันนี้กลับไป” อันวินกล่าว

“ผู้คนพูดว่า ดีใจที่คุณเลิกใช้รถคันนั้นแล้ว” อันวินกล่าว พร้อมเสริมว่า เขาไม่เสียใจที่จ่ายเงินเพื่อยกเลิกสัญญาเช่า “ผมจะยอมจ่ายมากกว่านั้นสองเท่า”

นอกจากนี้ อเล็กซ์ โคล-แฮมิลตัน สมาชิกสภาสกอตแลนด์ และเป็นสมาชิกพรรค Scottish Liberal Democrats ประกาศในโซเชียลมีเดียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เขาได้ขายเทสลาที่ใช้มาเป็นเวลา 5 ปีทิ้งแล้ว

“ด้วยความโกรธเกรี้ยวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของมัสก์ และการทำลายการสนทนาสาธารณะที่ควรเคารพ” โคล-แฮมิลตันเขียน “ผมไม่สามารถขับรถคันนี้ต่อไปได้อีกแล้ว”

ผลสำรวจจากสื่อเนเธอร์แลนด์ EenVandaag พบว่า 1 ใน 3 ของเจ้าของ Tesla กล่าวว่า พวกเขาได้ขายรถของตนไปแล้ว หรือกำลังวางแผนที่จะทำเช่นนั้น “หากผมรู้ว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ ผมคงไม่ซื้อ Tesla” หนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถามกล่าว

ส่วนผู้ที่ยังคงขับ Tesla อยู่ หลายคนหันไปซื้อสติ๊กเกอร์กันชนที่มีข้อความว่า “ฉันซื้อคันนี้ก่อนที่อีลอน มัสก์จะบ้าคลั่ง”


อ้างอิง: nytimeshufftimeyoupoliticousa