ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี ‘อินเดีย’ ด้วย กูรูแนะอินเดียโต้กลับ ไม่ควรรับการโจมตีฝั่งเดียว

ความตึงเครียดการค้าอินเดีย - สหรัฐร้อนแรงขึ้น หลังคำขู่ ปธน.ทรัมป์จะขึ้นภาษีเหล็ก และอะลูมิเนียมจากอินเดีย 25% จนบีบให้รัฐบาลอินเดียเตรียมมาตรการตอบโต้สหรัฐกลับ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จากสถานการณ์ที่ “อินเดีย” ถูกสหรัฐขู่ขึ้นภาษีเช่นกัน รัฐบาลอินเดียอาจถูกบีบให้ต้องเตรียมตัวตอบโต้สหรัฐ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิบัติตามคำขู่จริง
“เรากำลังจะเข้าสู่ยุคการต่อสู้ที่ทุกคนจะโจมตีใส่กัน และทุกคนจะได้รับบาดเจ็บ” ปัญจ์ จัดด้า ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการส่งออกด้านวิศวกรรมกล่าว “เรายังไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่นั่งดูเฉยๆ และรับการโจมตี อินเดียจะต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้”
สำหรับผู้ส่งออกของอินเดียจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน หากสหรัฐกำหนดภาษี 25% สำหรับเหล็ก และอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากอินเดียตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 จัดด้า กล่าวว่า จากมูลค่าสินค้าทางวิศวกรรมที่ส่งออกไปยังสหรัฐ ประมาณ 18,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2023-2024 มีจำนวน 6,600 ล้านดอลลาร์ที่เป็นเหล็ก และอะลูมิเนียม
ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐเมื่อคืนวันอังคาร ทรัมป์ได้ย้ำคำขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีจากโลหะเหล่านั้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า และจะกำหนดภาษีตอบโต้จากทุกประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2568
“สงครามภาษีเป็นเกมที่ผลรวมเป็นศูนย์ และไม่มีใครชนะ แต่ผู้บริโภคจะต้องสูญเสียอย่างแน่นอน” จัดด้า กล่าว
พิยูช โกยัล รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของอินเดียกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่ของทรัมป์เกี่ยวกับการค้า โดยอินเดียได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อทำให้ทรัมป์พอใจ
อย่างแรกที่อินเดียทำ คือ ลดภาษีสำคัญในงบประมาณเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงในมอเตอร์ไซค์ และวิสกี้ อีกทั้งอินเดียกำลังหารือการลดภาษีสินค้าหลายประเภท เช่น รถยนต์ ผลิตภัณฑ์เกษตรบางชนิด สารเคมี ยาอุตสาหกรรมที่สำคัญ รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์บางประเภท และอิเล็กทรอนิกส์
นีร์มาลา สิธารามัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังปกป้องผลประโยชน์ของผู้ส่งออก โดยแบ่งปันข้อมูลกับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง และกำลังติดตามการเจรจาการค้าอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ อินเดีย และเวียดนามเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กในเอเชียที่เติบโตเร็ว ซึ่งอาจได้รับผลกระทบหากทรัมป์เก็บภาษีครอบคลุมทุกการนำเข้าเหล็กจากสหรัฐ และอาจทำให้เหล็กล้นตลาด
อาเจย์ ซาฮัย ผู้อำนวยการใหญ่ของสมาคมผู้ส่งออกอินเดียมองว่า สงครามการค้าที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ส่งออกในอินเดียประเมินผลกระทบจากภาษีได้ยาก เพิ่มความไม่แน่นอน และผู้ส่งออกกำลังกังวล
ซาฮัย กล่าวว่า ยังมีความเสี่ยงที่จีนอาจทิ้งสินค้าราคาถูกในอินเดีย เมื่อสหรัฐเพิ่มภาษีต่อจีน
“ผู้ส่งออก ควรเตรียมตัวรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงจากจีนในตลาดอื่นๆ” ซาฮัย กล่าว “จีนจะพยายามอย่างหนักเพื่อหาตลาดอื่นๆ ขายสินค้าของตน และอาจพิจารณาให้ส่วนลด ซึ่งก็เป็นความท้าทายสำหรับเราเช่นกัน”
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นคู่ค้าการค้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยการค้าทวิภาคีมีมูลค่า 119,700 ล้านดอลลาร์ในปี 2023-2024 ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมของอินเดีย
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






