‘มาเลเซีย’ ทุ่ม 8.4 พันล้านบาท จับมือ Arm ดันประเทศผลิตชิป AI

‘มาเลเซีย’ ทุ่ม 8.4 พันล้านบาท จับมือ Arm ดันประเทศผลิตชิป AI

‘มาเลเซีย’ เดิมพันครั้งใหญ่ ลงนามข้อตกลงกับ Arm มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ เข้าถึงแปลนออกแบบชิป-สร้างวิศวกรทักษะ 10,000 คน อันวาร์หวังสร้างชิป AI ที่ผลิตโดยมาเลเซีย

สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า “มาเลเซีย” ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่ กับ Arm Holdings  จากสหราชอาณาจักรที่ออกแบบชิป และขายลิขสิทธิ์แบบให้กับบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ และอยู่ในเครือของ SoftBank โดยรัฐบาลลงทุนกว่า 250 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8.4 พันล้านบาท ในระยะเวลา 10 ปี เพื่อจัดตั้งฐานปฏิบัติการในภูมิภาคอาเซียน  ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับห่วงโซ่อุปทานชิปเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของประเทศมาเลเซีย

‘มาเลเซีย’ ได้อะไรจากการลงทุนครั้งนี้  

ในการลงทุนครั้งนี้ มาเลเซียจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโปรแกรม Arm Neoverse Compute Subsystems (CSS) และ Arm Flexible Access (AFA) ซึ่งจะช่วยให้บริษัทท้องถิ่นสามารถพัฒนาการออกแบบชิปของตนเองและเสริมความแข็งแกร่งให้กับความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค 

มาเลเซียกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ โดยมีแผนที่จะมอบใบอนุญาต CSS (Chip Supply System)  ซึ่งเปรียบเสมือนแบบแปลนสำเร็จรูปสำหรับการออกแบบชิป (System-on-Chip หรือ SoC) จำนวน 7 ใบให้แก่บริษัทท้องถิ่นที่มีศักยภาพและคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 

ใบอนุญาตเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำคัญให้ผู้ผลิตชิปท้องถิ่นสามารถพัฒนาชิปที่ออกแบบเองได้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถนำชิปออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ลดต้นทุนในการวิจัยและพัฒนา โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตเหล่านี้จะประสบความสำเร็จในระยะเวลา 4-5 ปี

ในขณะเดียวกัน  บริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดกลาง 25 แห่งในท้องถิ่น มีสิทธิ์เข้าถึงคลังทรัพย์สินทางปัญญาของ Arm ภายใต้เงื่อนไขโปรแกรม AFA  เพื่อช่วยเสริมสร้างนวัตกรรมด้านเซมิคอนดักเตอร์ของพวกเขา

ตามข้อมูลจากรัฐบาล ข้อตกลงนี้คาดว่าจะช่วยฝึกอบรมวิศวกรทักษะสูงจำนวน 10,000 คน โดยเน้นไปที่งานวิจัยและพัฒนาสำหรับสถาปัตยกรรมชิป การประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ และศูนย์ข้อมูล

สร้าง 'ชิป AI’ เมดอินมาเลเซีย

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม และเรเน ฮาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ARM เข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงดังกล่าวเมื่อวานนี้ (5ม.ค.68) โดยอันวาร์ยกย่องความร่วมมือครั้งนี้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นลูกที่สองในอุตสาหกรรมชิปของประเทศ

"ด้วยความร่วมมืออย่างครอบคลุมกับ Arm เราได้วางแผนด้านเทคโนโลยีที่ทะเยอทะยานที่สุดแผนหนึ่งที่มาเลเซียเคยเห็นมา นั่นคือการเป็นผู้บุกเบิกชิป AI ที่ 'ผลิตโดยมาเลเซีย' ชิปเหล่านี้จะได้รับการออกแบบ ผลิต ทดสอบ และประกอบที่นี่ และขายให้กับส่วนอื่นๆ ของโลก" อันวาร์กล่าว

ราฟิซี รัมลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของมาเลเซียเผยกับสื่อมวลชนถึงความสำคัญของข้อตกลงครั้งนี้ ที่จะช่วยลดช่องว่างระหว่างวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีขั้นสูงที่มาเลเซียตั้งเป้าหมายไว้ กับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน 

“รัฐบาลจำเป็นต้องตัดสินใจก้าวไปข้างหน้า เพราะหากเรารอจนกว่าจะพร้อมสมบูรณ์ เราอาจจะไม่มีวันได้เริ่มต้น”

วง เสียว ไฮ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มาเลเซียกล่าวว่า ความร่วมมือนี้เป็นกลยุทธ์ที่ดีในการเพิ่มขีดความสามารถในการออกแบบชิปของประเทศและทำให้มาเลเซียเป็น "ศูนย์กลางการออกแบบ IC (วงจรรวม) ที่สำคัญในภูมิภาค" ในอนาคตอันใกล้

ขณะนี้มาเลเซียกำลังเปลี่ยนทิศทางนโยบายครั้งสำคัญ โดยหันมาใช้รูปแบบการสนับสนุนแบบใหม่ที่อิงกับทรัพย์สินทางปัญญา แทนการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบเดิมๆ

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่มีเป้าหมายชัดเจน คือต้องการให้บริษัทท้องถิ่นของมาเลเซียได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงจากความร่วมมือกับ Arm ในโครงการ CSS (Chip Supply System) ว่าอาจสร้างผลตอบแทนมหาศาลถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 5 ปี 

อย่างไรก็ดี  รัฐบาลไม่สามารถการันตีความสำเร็จให้กับบริษัทเหล่านี้ได้ สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือเปิดโอกาสให้เข้าถึงระบบนิเวศของ Arm และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต 

‘เวียดนาม-ไทย-สิงคโปร์’  เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมชิป 

ความร่วมมือระหว่างมาเลเซียกับ Arm เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ อันเนื่องมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และข้อจำกัดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีชิป จุดยืนที่เป็นกลางและตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของมาเลเซียทำให้ประเทศนี้เป็นผู้เล่นสำคัญในความพยายามที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อกระจายการผลิตเซมิคอนดักเตอร์

ฟาร์ลินา ซาอิด นักวิจัยจากสถาบันการศึกษากลยุทธ์และระหว่างประเทศมาเลเซียมองว่า แม้มาเลเซียจะยังคงมีความเข้มแข็งในด้านการประกอบและทดสอบชิปเซมิคอนดักเตอร์ แต่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนอย่างเวียดนาม ไทย และสิงคโปร์ ก็กำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมชิปของตนเองอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ฟาร์ลินาได้เตือนว่า มาเลเซียไม่ควรพึ่งพาการออกใบอนุญาตจาก Arm มากเกินไป เนื่องจากสภาพแวดล้อมด้านทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

อ้างอิง Nikkei