เปิดรายงานความล้มเหลว ‘กองทัพอิสราเอล’ พลาดท่าฮามาส จุดฉนวนสงครามกาซา

เปิดรายงานความล้มเหลว ‘กองทัพอิสราเอล’ พลาดท่าฮามาส จุดฉนวนสงครามกาซา

กองทัพอิสราเอล เผยแพร่รายงานอย่างเป็นทางการครั้งแรก เกี่ยวกับความผิดพลาดของกองทัพที่นำไปสู่ความล้มเหลวในการรับมือกับการบุกโจมตีของกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 จนกลายเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามในฉนวนกาซาและคร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก

รายงานเผยแพร่ความล้มเหลว สรุปไว้ว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) “ประสบความล้มเหลวในการปฏิบัติภารกิจปกป้องพลเรือนอิสราเอล” 

บันทึกความยาว 19 หน้าดังกล่าว มีข้อมูลมากมายที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน่าสลดราว 1,200 ราย เมื่อนักรบประมาณ 5,000 คนของกลุ่มฮามาสและกลุ่มปาเลสไตน์อื่นๆ บุกเข้าไปในอิสราเอล และจับตัวประกันอีก 251 คนในระหว่างปฏิบัติการ และแม้ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญใดๆ มากนัก แต่การที่กองทัพสรุปว่า ตนตัดสินใจผิดพลาดเกี่ยวกับ "จุดมุ่งหมายของกลุ่มฮามาส" และประเมินศักยภาพของกลุ่มติดอาวุธนี้ต่ำเกินไป ยังคงเป็นเรื่องที่น่าหดหู่

รายงานเผยว่า กองทัพอิสราเองมองว่ากาซาเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงระดับรอง และมองอิหร่านกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เป็นภัยคุกคามที่สำคัญอันดับต้นๆ กองทัพอิสราเอลจึงมองว่า “ฮามาสไม่มีความชอบธรรม แต่ก็ไม่มีความพยายามใด ๆ ที่จะพัฒนาหาหนทางอื่น” 

กองทัพอิสราเอลเลือกใช้แนวทาง “การจัดการความขัดแย้ง” เพื่อจัดการปัญหาในกาซา และสันนิษฐานว่าฮามาส “ไม่สนใจหรือเตรียมการใดๆ สำหรับทำสงครามขนาดใหญ่” ซึ่งนั่นเป็นการรับรู้ที่ผิดเพี้ยนไป เพราะกลวิธีการหลอกลวงของกลุ่มฮามาสเอง 

ในขณะที่หลักฐานตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ชี้ให้เห็นมานานแล้วว่า กลุ่ม "ฮามาส" ที่ถูกอิสราเอล สหรัฐ สหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ ประกาศให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายนั้น กำลังพัฒนาแผนการที่แสนทะเยอทะยาน แต่ถูกมองว่า “ไม่มีความสมจริงหรือไม่สามารถปฏิบัติได้” หารู้ไม่ว่านั่นสะท้อนให้เห็นถึง “ความปรารถนาในระยะยาวของกลุ่มฮามาส มากกว่าความต้องการยกตัวเองเป็นภัยคุกคามที่สามารถจัดการได้”

รายงานความล้มเหลวระบุอีกว่า ในช่วงหลายเดือนก่อนเกิดสงคราม หน่วยข่าวกรองการทหารอิสราเอลได้เริ่มปรับปรุงการประเมินฮามาสใหม่ และพบว่าแผนของฮามาสไม่ใช่แค่วิสัยทัศน์ แต่เป็น “กรอบการทำงานที่เป็นรูปธรรมสำหรับการวางแผนปฏิบัติการ” 

อย่างไรก็ตาม การประเมินสถานการณ์ใหม่นั้น กลับไม่ได้อยู่ในความสนใจของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยข่าวกรองทหารอิสราเอล และเมื่อเกิดสงครามก็เกิดความไม่พึงพอใจอย่างกว้างขวางภายในกองทัพต่อวิธีจัดการภัยคุกคามที่เกิดขึ้น และการประเมินฮามาสผิดพลาด

ความล้มเหลวนั้น มาจากการที่อิสราเอลไม่มีการหารือเชิงลึก เพื่อฉุกคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาคาดการณ์ผิด และเมื่อเวลาผ่านไป “ก็เกิดช่องว่างระหว่างการประเมินข่าวกรองเกี่ยวกับฮามาสและสถานการณ์ความเป็นจริง” 

รายงานดังกล่าวยังเน้นย้ำด้วยว่า อิสราเอลมีความเชี่ยวชาญลดลง เกี่ยวกับมุมมองโลกที่แตกต่างไปของศัตรู รวมถึงด้านวัฒนธรรม ศาสนา ภาษา และประวัติศาสตร์

จากนั้นอิสราเอลได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปวัฒนธรรมหน่วยข่าวกรองอย่างจริงจัง โดย “ส่งเสริมการเปิดกว้างทางปัญญา ความสงสัยใคร่รู้ การรับฟัง การเรียนรู้ การถกเถียง และแสดงความเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์”

อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาที่จะปกป้องหน่วยข่าวกรองอันทรงคุณค่า ก็มีส่วนทำให้กองทัพอิสราเอลไม่สามารถยกระดับการเตือนภัยก่อนเกิดเหตุโจมตีวันที่ 7 ต.ค. 2566 ได้

นอกจากนี้ รายงานระบุด้วยว่า กองทัพในกาซา “พ่ายแพ้ราบคาบอยู่หลายชั่วโมง” ในวันที่ 7 ต.ค. หรือต้านการโจมตีไม่ได้ ส่งผลให้ความสามารถในการเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและการตอบสนองต่อการโจมตีมีประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก แม้กองทัพอากาศของอิสราเอลสามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ “มีปัญหาอย่างมากในการแยกแยะทหารไอดีเอฟ พลเรือน และผู้ก่อการร้าย” บางกรณีมีการพาทหารที่ได้รับบาดเจ็บอพยพออกไปก่อนพลเรือนเสียอีก

หลังจากมีการนำเสนอรายงานความล้มเหลวนี้ต่อผู้บังคับบัญชาเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองทัพไอดีเอฟที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว กล่าวว่า เขาพร้อมรับผิดชอบต่อความล้มเหลวดังกล่าวอย่างเต็มที่

“ผมยอมรับว่าอยู่ในความรับผิดชอบของผม มันเป็นหน้าที่ผม ผมเป็นผู้บัญชาการกองทัพเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงหน้าที่ของพวกคุณทั้งหมดเป็นของผมเช่นกัน ผมเห็นว่าในทุกๆ คำสั่งที่ผิดพลาดของผม เป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบของผมด้วยเช่นกัน” ฮาเลวีกล่าวในวิดีโอ

ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว นายพลฮาเลวีได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากความล้มเหลวในการบัญชาการ และเรียกร้องให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการสอบสวนเป็นวงกว้างขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันการโจมตีอีกครั้งได้ 

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ที่ยังไม่ยอมออกมารับผิดชอบใดๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม กล่าวว่า การสอบสวนดังกล่าวควรรอจนกว่าสงครามจะสิ้นสุดลง 

ขณะที่บรรดานักวิจารณ์กล่าวหาว่าเนทันยาฮูไม่เต็มใจที่จะรับผิดชอบความผิดในส่วนของตัวเอง 

อนึ่ง อิสราเอลตอบโต้การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมด้วยการเปิดฉากโจมตีทางอากาศและทางบกในฉนวนกาซา ซึ่งตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขของฮามาส ระบุว่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 48,365 ราย