เปิดดีลแร่ธาตุ 'สหรัฐ-ยูเครน' ใครได้อะไร?

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวที่นายกรัฐมนตรียูเครนเรียกว่า  ข้อตกลง “เบื้องต้น” รัฐบาลเคียฟจะส่งมอบรายได้จากทรัพยากรแร่ธาตุเข้าสู่กองทุนร่วมที่สหรัฐดูแล

ข้อตกลงนี้เป็นหัวใจสำคัญของยูเครนเพื่อให้ได้การสนับสนุนจากทรัมป์ ขณะที่เจ้าตัวต้องการยุติสงครามของรัสเซียโดยเร็ว ส่วนการเจรจาระหว่างสหรัฐกับรัสเซียที่ยูเครนไม่ได้ร่วมด้วย มีกำหนดเจรจากันต่อในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.)

ทรัมป์เผยว่า เซเลนสกีจะมาลงนามข้อตกลงแร่ธาตุหายากและอื่นๆ แต่วอชิงตันจะไม่รับประกันความมั่นคงให้มากนัก

รัฐบาลเคียฟต้องการให้สหรัฐรับประกันความมั่นคงในข้อตกลงด้วย แต่ทรัมป์มองข้อตกลงว่าเป็นการจ่ายค่าความช่วยเหลือที่สหรัฐมีให้ยูเครน

“ผมจะไม่ค้ำประกันความมั่นคงให้มากเกินไป เราจะให้ยุโรปทำหน้าที่นั้น” ทรัมป์กล่าวโดยไม่เผยรายละเอียด

ด้านเซเลนสกี แถลงในคลิปยามค่ำว่า การเจรจาระหว่างตนกับทรัมป์จะเน้นถึงความสำคัญของการได้ค้ำประกันความมั่นคง “เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารัสเซียจะไม่ทำลายล้างชีวิตชาติอื่นๆ ได้อีก” พร้อมเสริมว่าการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องของสหรัฐเป็นสิ่งสำคัญ

“สำหรับผมและพวกเราทุกคนในโลก ความช่วยเหลือของสหรัฐอย่างต่อเนื่องสำคัญมากความแข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นบนเส้นทางสู่สันติภาพ” เซเลนสกีกล่าว

ทรัมป์อ้างเสมอมาโดยไม่อธิบายตัวเลขว่า สหรัฐส่งเงินให้ยูเครนแล้ว 3.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเต็มตัวเมื่อสามปีก่อน สภาคองเกรสอนุมัติความช่วยเหลือไปแล้ว 1.75 แสนล้านดอลลาร์

ร่างข้อตกลง ลงวันที่ 25 ก.พ. กำหนดประเด็นสำคัญไว้ดังนี้

• กองทุนการลงทุนฟื้นฟูบูรณะ

-เอกสาร“ข้อตกลงทวิภาคีในการกำหนดเงื่อนไขและข้อกำหนดสำหรับกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟู”ระบุว่า สองประเทศจะตั้งกองทุนการลงทุนฟื้นฟูบูรณะ เพื่อรวบรวมรายได้จากทรัพยากรยูเครนนำไปลงทุนใหม่ โดยตัวแทนทั้งสองประเทศจัดการกองทุนนี้ร่วมกัน

-หลังสรุปข้อตกลงแล้ว จะมีการเจรจาข้อตกลงกองทุนนี้ทันที

-รายได้จากทรัพยากรธรรมชาติที่รัฐยูเครนพัฒนาได้ในอนาคตจะส่งให้กองทุน 50%

- ข้อตกลงไม่ได้กำหนดชื่อของสินทรัพย์ โดยจะนิยามในข้อตกลงฉบับหลังซึ่งต้องนำไปให้สภาลงมติ

-สินทรัพย์ดังกล่าว หมายถึง แหล่งแร่สำรอง, ไฮโดรคาร์บอน, น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ และวัสดุสกัดได้อื่นๆ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ทรัพยากรธรรมชาติ (เช่น ท่อส่งก๊าซธรรมชาติเหลวและโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือ)

-“เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย แหล่งรายได้ในอนาคตดังกล่าวไม่รวมอยู่ในแหล่งรายได้ปัจจุบัน ที่เป็นส่วนหนึ่งของรายได้งบประมาณยูเครนอยู่แล้ว”

-กองทุนจะมีเป้าหมายลงทุนในโครงการของยูเครน และดึงดูดการลงทุนในสินทรัพย์สาธารณะและสินทรัพย์เอกชน เช่น ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือ และรัฐวิสาหกิจ

-เงินเข้ากองทุนจะถูกนำไปลงทุนใหม่ในยูเครน เพื่อส่งเสริม “ความปลอดภัย ความมั่นคง และความมั่งคั่งของยูเครน”

• การรับประกันความมั่นคง

-รัฐบาลสหรัฐจะสนับสนุนความพยายามของยูเครน ให้ได้รับประกันความมั่นคงอันจำเป็นเพื่อสถาปนาสันติภาพถาวร ไม่มีการกล่วถึงการรับประกันความมั่นคงอย่างเป็นรูปธรรมจากสหรัฐ ที่รัฐบาลเคียฟหวังว่าจะได้

-สหรัฐจะให้คำมั่นทางการเงินระยะยาวเพื่อพัฒนายูเครนให้มั่นคงและเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ

- ข้อตกลงจะรวม “การดำเนินกาารอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสถาปนาสันติภาพถวร และเสริมสร้างความยืดหยุ่นมั่นคงทางเศรษฐกิจ”

ทั้งนี้ ร่างที่รอยเตอร์สเห็นระบุว่า ข้อตกลงนี้จะได้รับการลงนามโดยนายสก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีแอนดรี ไซบิฮา ของยูเครน