เปิด ‘ข้อตกลงแร่หายาก’ เบื้องต้น ยูเครนเตรียมชดใช้หนี้ให้สหรัฐ?

แหล่งข่าว 2 รายเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สหรัฐ และยูเครนได้เห็นชอบข้อตกลงแร่หายาก เพื่อแลกกับการคุ้มครองจากสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงจากสหรัฐ หรือการสนับสนุนอาวุธให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง แต่บอกเพียงว่า สหรัฐต้องการให้ยูเครนเป็นอิสระ มีอธิปไตย และมีความมั่นคง

สำหรับข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธในอนาคต ยังคงอยู่ระหว่างการหารือของสหรัฐ และยูเครน

ด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน จะเยือนสหรัฐวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.68 นี้ เพื่อลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่

ปธน. ทรัมป์กล่าวกับนักข่าวด้วยว่า เงินภาษีของคนอเมริกันกำลังจะกลับคืบมา หรือนั่นจะหมายความว่า ข้อตกลงดังกล่าวเปรียบเสมือนให้ยูเครนชดใช้หนี้คืนสหรัฐ

ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงแร่หายาก แหล่งข่าวเผยว่า สหรัฐ และยูเครนจะจัดตั้งกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟู เพื่อรวบรวม และจัดเก็บรายได้จากการลงทุนในทรัพยากรธรรมชาติของยูเครนทั้งแร่หายาก ไฮโดรคาร์บอน และแร่ธาตุอื่นๆ

โดยยูเครนจะนำรายได้จากการลงทุนแร่หายาก 50% ที่หักค่าใช้จ่ายการดำเนินงานแล้ว นำไปเข้ากองทุนดังกล่าว และสมทบทุนเรื่อยๆ จนกองทุนมีเงินทุน 500,000 ล้านดอลลาร์

ขณะที่สหรัฐให้คำมั่นสนับสนุนการเงินระยะยาว เพื่อความมั่นคง และเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจของยูเครน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ายูเครนจะได้อะไรจากข้อตกลงดังกล่าว ทรัมป์บอกเพียงว่า สหรัฐได้ให้เงินสนับสนุนยูเครนแล้วกว่า 350,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงอาวุธการทหารที่ยูเครนใช้ป้องกันประเทศ

ด้านสหภาพยุโรปเผยว่ายูเครนมีแร่มากถึง 22 ชนิด จาก 32 ชนิดที่ยุโรปมองว่าสำคัญ ทั้งแร่สำคัญในภาคอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง แร่เฟอร์โรอัลลอย โลหะ และอโลหะมีค่า และแร่หายากบางชนิด

นอกจากนี้ ยูเครนยังมีแหล่งแร่สำรองแกรไฟต์มากถึง 20% ของแหล่งแร่แกรไฟต์ทั่วโลก ซึ่งแร่ดังกล่าวมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์

แม้ข้อตกลงดูเหมือนจะเป็นการละเมิด แต่สก็อตต์ แอนเดอร์สัน นักวิชาการด้านธรรมาภิบาลจากสถาบันบรูกกิงส์ มองว่า ยูเครนจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์

นอกจากข้อตกลงแล้ว ปธน.ทรัมป์ยังได้พูดถึงแนวทางการยุติสงครามว่า จำเป็นต้องมีกองกำลังรักษาสันติภาพในยูเครน ขณะที่รัสเซียออกมาปฏิเสธเมื่อวันอังคาร 25 ก.พ. 68 ว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยหากมีการส่งกองกำลังของนาโตเข้าไปในยูเครน

หลังจากนี้คงต้องจับตาดูต่อไปว่า ในวันศุกร์ ปธน.เซเลนสกี และปธน.ทรัมป์ จะเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงหรือไม่ และข้อตกลงแร่หายากนี้จะช่วยนำสันติภาพกลับคืนสู่ยูเครนได้อย่างไร

อ้างอิง: Reuters

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์