ทรัมป์เตรียมงัด ‘ภาษีทองแดง’ ตอบโต้จีนทุ่มตลาด!

ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์สั่งกระทรวงพาณิชย์พิจารณาเก็บภาษีนำเข้า ‘ทองแดง’ เพื่อแก้ปัญหาการทุ่มตลาด และการผลิตล้นเกินจากจีนที่กระทบอุตสาหกรรมทองแดงในประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารให้กระทรวงพาณิชย์ “พิจารณาความเป็นไปได้” ในการกำหนดภาษีนำเข้าทองแดง ซึ่งอาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทองแดงทั่วโลก
ทรัมป์กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่าง “มหาศาล” ขณะลงนามในห้องทำงานรูปไข่ โดยมีฮาวเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร่วมอยู่ด้วย
ก่อนหน้านั้นในวันอังคาร เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลได้ให้เหตุผลว่า นี่เป็นก้าวที่จำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติ โดยให้เหตุผลว่าการทุ่มตลาดและปัญหาการผลิตส่วนเกินในตลาดโลกของจีน ได้กระทบต่อการผลิตทองแดงภายในสหรัฐ จนระบบอาวุธและผลิตภัณฑ์สำคัญอื่น ๆ ต้องพึ่งพาการนำเข้า
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ซึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวโดยไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะหารืออัตราภาษีที่อาจกำหนดได้ ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดงในตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเกือบ 5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมของปีที่แล้ว
“ทองแดง” ถือเป็นวัสดุที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจยุคใหม่ เนื่องจากมีการใช้อย่างแพร่หลายในสายไฟในบ้านเรือนและโรงงาน นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า ราคาทองแดงจะปรับตัวสูงขึ้นในทศวรรษนี้ เนื่องจากอุปทานไม่สามารถตามทันความต้องการ เช่นเดียวกับโลหะอื่น ๆ โดยปีที่แล้ว จีนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 44% ของทองแดงที่ผ่านการถลุงทั่วโลก ตามข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ
ลัทนิคกล่าวในแถลงการณ์ว่า มาตรการนี้จะรวมถึงการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่มีทองแดงเป็นส่วนประกอบด้วย และระบุว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมทองแดงภายในประเทศ
“เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของเรา อุตสาหกรรมทองแดงอันยิ่งใหญ่ของอเมริกา ‘ถูกทำลายลง’ โดยผู้เล่นในตลาดโลกที่บ่อนทำลายการผลิตภายในประเทศของเรา” ลัทนิคกล่าว “ภาษีนำเข้าสามารถช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมทองแดงของเราได้หากจำเป็น และยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของชาติอีกด้วย”
ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ได้กล่าวพุ่งเป้าไปที่จีน โดยระบุว่า “จีนใช้กำลังการผลิตส่วนเกินและการทุ่มตลาดเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจมายาวนาน จนทำให้คู่แข่งเสียเปรียบ และผลักดันให้อุตสาหกรรมคู่แข่งต้องปิดตัวลง”
ทั้งนี้ สหรัฐใช้ทองแดงที่ผ่านการถลุงประมาณ 1.6 ล้านตันในปี 2024 ตามข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แม้ว่าสหรัฐมีเหมืองทองแดงขนาดใหญ่ และผลิตทองแดงปฐมภูมิได้ราว 850,000 ตันในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจากพันธมิตรทางการค้าหลักเพื่อตอบสนองความต้องการ
ตามรายงานของมอร์แกน สแตนลีย์ การนำเข้าทองแดงสุทธิของสหรัฐ คิดเป็น 36% ของความต้องการทั้งหมด
อ้างอิง: bloomberg







