สรุปสารจาก 'บัฟเฟตต์' ถึงทรัมป์ พร้อม 3 สถิติใหม่ 'กำไร เงินสด ภาษี'

สรุปสารจาก 'บัฟเฟตต์' ถึงทรัมป์ พร้อม 3 สถิติใหม่ 'กำไร เงินสด ภาษี'

ถอดสารของ 'วอร์เรน บัฟเฟตต์' ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway กับ 3 สูงทุบสถิติใหม่ 'กำไร-เงินสด-จ่ายภาษี' พร้อมเตือนรัฐบาลลุงแซม 'ใช้จ่ายเงินให้ฉลาด'

KEY

POINTS

  • เบิร์กไชร์เผยกำไรจากการดำเนินงานปี 2024 ทุบสถิติใหม่ปีที่ 3 ติดต่อกัน เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน เฉพาะไตรมาสสุดท้ายพุ่ง 71% นำโดยธุรกิจประกัน
  • ย้ำชอบหุ้นมากกว่าเงินสด แต่บริษัทถือเงินสดพุ่งทุบสถิติใหม่ 3.34 แสนล้านดออลาร์ เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน
  • จ่ายภาษีปีที่แล้วเกือบ 9 แสนล้านบาท รวมตลอด 60 ปี บริษัทจ่ายภาษีแล้ว 3.4 ล้านล้าน แซงหน้าทุกบริษัทในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
  • เตือน 'ลุงแซม' ใช้เงินให้ฉลาด ดูแลคนในสังคมให้ดี และรักษาเสถียรภาพค่าเงินดอลลาร์
     

โดยปกติแล้วก่อนจะถึงการประชุมประจำปีของบริษัทลงทุนชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก "Berkshire Hathaway" ซึ่งจะมีขึ้นประมาณช่วงปลายเดือนเม.ย. ถึงต้นเดือนพ.ค. ของแต่ละปี มหาเศรษฐีตำนานนักลงทุนวีไอ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" (Warren Buffet) จะส่งจดหมายถึงนักลงทุนก่อนในช่วงนี้ เพื่อแจ้งผลประกอบการของบริษัทและบ่งชี้ถึงบรรยากาศทิศทางเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ

สำหรับปี 2025 นี้ บัฟเฟตต์วัย 94 ปี ได้ส่งจดหมายถึงนักลงทุนเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. ซึ่งหลายฝ่ายจับตาเป็นพิเศษถึง "นัยยะ" ที่อยู่ในจดหมายของบัฟเฟตต์ซึ่งผ่านทั้งตัวเลขกำไร การถือเงินสด และการจ่ายภาษีนิติบุคคลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และผ่านตัวอักษรที่ระบุถึง "รัฐบาลลุงแซม" ตั้งแต่เรื่องการใช้จ่ายเงินอย่างฉลาด ไปจนถึงการดูแลคนในสังคมให้ดี เพราะไม่ใช่ทุกคนที่โชคดี 

3 สูงทุบสถิติใหม่ 'กำไร-เงินสด-จ่ายภาษี'

กำไรดำเนินงานทุบสถิติใหม่ปีที่ 3 ติดต่อกัน

สำหรับผลประกอบการทั้งปี 2024 เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 27% อยู่ที่ 47,437 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 3.74 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นกำไรจากการดำเนินงานที่สูงสุดทุบสถิติใหม่เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนกำไรสุทธิ (net income) ทั้งปีอยู่ที่ 89,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งมาจากการขายหุ้น Apple และ American Express

เฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีงบ 2024 บริษัททำกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 71% อยู่ที่ 14,527 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้มาจากการลงทุนด้านการรับประกันภัย (underwriting) ที่เพิ่มขึ้นถึง 302% เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน ไปอยู่ที่ 3,409 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้รายได้จากการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจประกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นเกือบ 50% อยู่ที่ 4,088 ล้านดอลลาร์  

"ในปี 2024 เบิร์กไชร์มีผลประกอบการดีกว่าที่คาดไว้ แม้ว่า 53% ของธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ 189 แห่งของเราจำรายงานกำไรลดลง แต่เราก็ได้กำไรจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตามที่คาดการณ์ไว้มาชดเชย โดยอัตราผลตอบแทนของตั๋วเงินคลังปรับตัวดีขึ้น และเรายังได้เพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูงเหล่านี้อย่างมาก" บัฟเฟตต์ซึ่งเป็นประธานและซีอีโอของเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ ระบุในจดหมายประจำปีถึงผู้ถือหุ้น

"ธุรกิจประกันของเรายังทำกำไรเพิ่มขึ้นมาก นำโดยผลประกอบการของ GEICO" แต่ก็เตือนด้วยว่าเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้จะส่งผลให้ธุรกิจประกันของบริษัทมีผลขาดทุนก่อนหักภาษีประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์

จับสัญญาณถือ 'เงินสด' สูงสุดเป็นประวัติการณ์

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เบิร์กไชร์ถือเงินสดสูงสุดทุบสถิติใหม่ แต่ปริมาณเงินสดของปี 2024 นั้นนับว่าน่าสนใจทั้งในแง่ที่เป็นสถิติใหม่ (อีกครั้ง) และมากกว่าสถิติเดิมของปี 2023 เป็น "เท่าตัว"

เบิร์กไชร์รายงานการถือเงินสดในปี 2024 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 334,000 ล้านดอลลาร์ หรือสูงกว่าสถิติเดิมของปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 167,600 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนหนึ่งมาจากการเทขายหุ้นเพิ่มขึ้นในไตรมาสล่าสุด แต่บัฟเฟตต์ไม่ได้อธิบายอะไรในจดหมายประจำปีที่ทุกคนต่างตั้งตารอว่า เหตุใดนักลงทุนที่ขึ้นชื่อเรื่องการซื้อหุ้นอย่างชาญฉลาดตลอดเวลาจึงดูเหมือนจะปิดประตูลง

บัฟเฟตต์ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อหุ้นในจดหมายว่า กระแสเงินสดนี้ไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนใจจากตลาดหุ้นแต่อย่างใด และยังคงชอบหุ้นมากกว่าเงินสด

"แม้ว่านักวิจารณ์บางคนจะมองว่าสถานะเงินสดของเบิร์กไชร์ในปัจจุบันเป็นสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่เงินส่วนใหญ่ของคุณก็ยังคงอยู่ในหุ้น และเรื่องนี้ก็จะยังไม่เปลี่ยนแปลง" บัฟเฟตต์ระบุ 

“ผู้ถือหุ้นเบิร์กเชียร์วางใจได้ว่าเราจะนำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนในหุ้นตลอดไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นของอเมริกา แม้ว่าบริษัทส่วนใหญ่จะมีการดำเนินธุรกิจข้ามชาติก็ตาม” บัฟเฟตต์ระบุ “เบิร์กไชร์จะไม่มีทางเลือกถือสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดมากกว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดี ไม่ว่าจะถือหุ้นทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนก็ตาม”

ทั้งนี้ การที่เบิร์กไชร์ถือเงินสดเป็นจำนวนมากได้ก่อให้เกิดคำถามทั้งในหมู่ผู้ถือหุ้นและนักวิเคราะห์ โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปี นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บัฟเฟตต์ยังแสดงความผิดหวังเกี่ยวกับตลาดที่มีราคาแพงและโอกาสในการซื้อหุ้นที่จำกัด 

ตลอด 60 ปี จ่ายภาษีไปแล้ว 3.4 ล้านล้านบาท

เบิร์กไชร์ยังสร้างสถิติในแง่ตัวเลขอีกด้านกับการจ่าย "ภาษีนิติบุคคล" ในปีที่แล้วถึง 26,800 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 9 แสนล้านบาท) ซึ่งบัฟเฟตต์ระบุว่าตัวเลขที่ทุบสถิติใหม่นี้ยังคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 5% ของภาษีนิติบุคคลทั้งหมดที่สหรัฐเรียกเก็บในปี 2024 ไม่รวมภาษีของรัฐ (ท้องถิ่น) และภาษีที่จ่ายให้กับรัฐบาลต่างประเทศ

บัฟเฟตต์ระบุด้วยว่า ตลอด 60 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เขาเข้าซื้อกิจการเบิร์กไชร์ บริษัทจ่ายภาษีนิติบุคคลให้รัฐบาลไปแล้วกว่า 1.01 แสนล้านดอลลาร์ (เกือบ 3.4 ล้านล้านบาท) หรือสูงที่สุดมากกว่าบริษัทอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ  

ความเห็นของบัฟเฟตต์เกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ให้คำมั่นว่า "จะลดหย่อนภาษีนิติบุคคลให้มากขึ้น" หลังจากเคยลดเหลือ 21% ในวาระแรกของการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 ขณะที่รอบนี้ ทรัมป์ต้องการลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15%

"หากเบิร์กไชร์จ่ายเช็กภาษีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ให้กระทรวงการคลังทุกๆ 20 นาที ตลอดทั้งปี 2024 ลองนึกภาพเป็นเวลา 366 วันทั้งวันทั้งคืนดูสิ (ปี 2024 เป็นปีอธิกสุรทิน*) – เราก็ยังคงต้องจ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางเป็นจำนวนมากเมื่ถึงสิ้นปี” บัฟเฟตต์ระบุ

(*ปีอธิกสุรทิน คือปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน)

ภาษีที่เบิร์กไชร์ต้องจ่ายในปี 2024 สูงกว่ายอดรวมของห้าปีก่อนหน้านี้รวมกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขายหุ้นจำนวนมากของ 2 บริษัทหลักๆ คือ Apple Inc. และ Bank of America Corp. เมื่อปีที่แล้ว

“เขากำลังพูดถึงเรื่องภาษี แต่ปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างผิดปกติ” จิม ชานาฮาน นักวิเคราะห์จากเอ็ดเวิร์ด โจนส์กล่าว  “ผมไม่แน่ใจว่าเขาต้องการพูดถึงบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่จ่ายภาษีน้อยหรือเปล่า แต่ถ้าอ่านระหว่างบรรทัด มันดูเหมือนว่าเขากำลังสื่อถึงเรื่องนั้น”

วอนลุงแซมใช้เงินให้ฉลาด

โดยปกติแล้วในช่วงหลังๆ มานี้ บัฟเฟตต์แทบไม่ได้กล่าวถึงการเมืองหรือเหตุการณ์ปัจจุบันในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเท่าไรนัก เขามักจะหลีกเลี่ยงประเด็นที่อาจสร้างความขัดแย้งและส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเบิร์กไชร์ อย่างไรก็ตาม ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นล่าสุดนี้ บัฟฟเฟตต์ในวัย 94 ปี ได้เรียกร้องให้รัฐบาลใช้เงินที่ได้รับอย่างมีความรับผิดชอบ

“ขอบคุณลุงแซม หวังว่าสักวันหนึ่ง หลานๆ ของคุณที่เบิร์กไชร์จะสามารถส่งเงินให้คุณได้มากกว่าที่เราทำในปี 2024 ใช้มันอย่างฉลาด ดูแลผู้คนจำนวนมากที่โชคร้ายซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกเขา พวกเขาสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ และอย่าลืมว่าเราต้องการให้คุณรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน ซึ่งสิ่งนี้ต้องอาศัยทั้งปัญญาและความรอบคอบจากคุณ” บัฟเฟตต์ระบุ พร้อมเน้นย้ำอุดมการณ์เชิงประชาธิปไตยที่เขาสนับสนุนมาอย่างยาวนาน

เคธี ซีเฟิร์ท  นักวิเคราะห์จาก CFRA Research กล่าวว่า “ฉันคิดว่า แม้จะเป็นข้อความที่ส่งมาอย่างแนบเนียน แต่ก็ทรงพลังมาก”

ที่มา: CNBC (1), CNBC (2), Reuters, Bloomberg