จับกระแส ‘โลกอาหรับ’ ต้าน ‘ทรัมป์’ เสนอริเวียร่า ล้างเผ่าพันธุ์

โลกอาหรับ กลั้นใจรอผลเจรจา “การทูต” คลี่คลายขัดแย้งการเมือง - มนุษยธรรม ค้าน “ทรัมป์” เสนอย้ายผู้คนในฉนวนกาซ่า 2.2 ล้าน เปลี่ยนเป็นริเวียร่า ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
KEY
POINTS
Key Points:
- ผู้นำโลกอาหรับ และผู้เชี่ยวชาญหลายคนในตะวันออกกลางต่างออกมาเตือนว่า แผนรีสอร์ทหรูริเวียร่า อาจสร้างความโกลาหลให้กับภูมิภาคนี้ได้
- การขับไล่พวกเขาออกจากถิ่นที่อยู่อาศัยในฉนวนกาซา เป็นความคิดที่สกปรก นำมาซึ่งความเจ็บปวด และนองเลือด
- คาดผลกระทบจะไม่หยุดอยู่แค่ชายแดนกาซาเท่านั้น อียิปต์และจอร์แดนยังเป็น 2 ประเทศที่ทรัมป์ระบุให้เป็นจุดหมายปลายทางชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นฐาน นี่ชัดเจนว่า ไม่มีทางเลือกมากนัก สำหรับการหาพื้นที่รองรับผู้ลี้ภัยชาวกาซาหลายล้านคน
แม้แผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นความฝันเฟื่องของพวกล่าอาณานิคม หวังกวาดล้างชาติพันธุ์ แต่รัฐบาลฝ่ายขวาจัดอย่างอิสราเอล ก็ยังคงสนับสนุนแผนนี้ ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากนานาชาติเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยผู้นำโลกอาหรับ และผู้เชี่ยวชาญหลายคนในตะวันออกกลางต่างออกมาเตือนว่า แผนรีสอร์ทหรูริเวียร่า อาจสร้างความโกลาหลให้กับภูมิภาคนี้ได้
โมนิก้า มาร์กส์ ศาสตราจารย์ด้านการเมืองตะวันออกกลาง มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก-อาบูดาบี กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ไม่เลือกออกจากฉนวนกาซาโดยสมัครใจ แม้ว่าพวกเขาจะมีทางเลือก เพราะหลายคนรู้สึกว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกแล้ว มีเพียงแต่ความภาคภูมิใจ ความรู้สึกยังมีชีวิตอยู่ และยังมีบ้านของพวกเขา ท่ามกลางซากปรักหักพัง
“ การขับไล่พวกเขาออกจากถิ่นที่อยู่อาศัยในฉนวนกาซา เป็นความคิดที่สกปรก นำมาซึ่งความเจ็บปวด และนองเลือด” โมนิก้ากล่าวในรายการ This week in Asia
ไอเดียนายทุน ละเมิดมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
นักวิเคราะห์ในภูมิภาคเห็นพ้องกันว่า ข้อเสนอของทรัมป์ ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง และคาดว่า ชาวปาเลสไตน์จะต่อต้านรุนแรงต่อการบังคับย้ายถิ่นฐาน อาจส่งผลให้กองกำลังทหารอิสราเอลเข้ามาปราบปรามในพื้นที่อย่างหนักอีกครั้ง
โดยผลกระทบจะไม่หยุดอยู่แค่ชายแดนกาซาเท่านั้น อียิปต์และจอร์แดนยังเป็น 2 ประเทศที่ทรัมป์ระบุให้เป็นจุดหมายปลายทางชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นฐาน นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ไม่มีทางเลือกมากนัก สำหรับการหาพื้นที่รองรับผู้ลี้ภัยชาวกาซาหลายล้านคน
‘มาเลเซีย’ โกรธแค้นแผนสร้าง ‘ริเวียร่า’
ข้อเสนอของทรัมป์สร้างความไม่ยอมรับและเหยียดหยามในมาเลเซีย แต่ดูเหมือนการทูตแบบเงียบ อาจเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ขณะนี้ กลับกลายว่า ข้อเสนอทรัมป์เป็นเรื่องน่าอับอาย ที่จะขับไล่ชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคน ออกจากฉนวนกาซา และเปลี่ยนดินแดนแห่งสงครามเป็นริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง เรื่องนี้ได้จุดชนวนกระแสความโกรธแค้นรุนแรงในมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่สนับสนุนมาเลเซียอยากเปิดเผยที่สุดในเอเชีย
มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวออกมาให้คว่ำบาตร ถอนการลงทุนในสหรัฐ และอิสราเอล โดยกลุ่มแรกออกมาประณามแผนดังกล่าวโดยชี้แนวคิดของทรัมป์ ผิดเพี้ยนอย่างน่าตกใจ และควรกวาดทิ้งลงถังขยะ
นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นในฉนวนกาซา มากกว่า 500 วันที่แล้ว ได้มีแกนนำเคลื่อนไหวรณรงค์คว่ำบาตรที่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนชาวมาเลเซียอย่างมาก ซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจและสินค้าชาติตะวันตกที่ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับสหรัฐ รวมถึงไปสตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ และเคเอฟซี
“ทำไมสหรัฐ หรืออิสราเอล เสนอความคิด ให้ยึดครองดินแดน ที่พวกเขาไม่มีสิทธิเหนืออธิปไตยเลย” นอร์ ไอด้า ยัสซิน แกนนำชาวมาเลเซียกล่าวและย้ำไม่ยอมรับข้อเสนอทรัมป์
ไอด้าชี้ว่า มีความแปลกประหลาดที่แผนเปลี่ยนฉนวนกาซ่าเป็นริเวียร่าตะวันออกกลางของของประธานาธิบดีสหรัฐ เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกๆ ที่เขาการดำรงตำแหน่ง
ประชาชนส่วนใหญ่ในมาเลเซียเป็นชาวมุสลิม และให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์มายาวนาน ซึ่งการประกาศไอเดียของทรัมป์ ได้บ่อนทำลายข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางที่มีต่อกลุ่มฮามาส ซึ่งทรัมป์เคยแอบอ้างเครดิตอย่างชัดเจน
อ้างอิง : SCMP







