รู้วัฒนธรรม เข้าใจภาษา มัดใจนักท่องเที่ยวอินเดีย l World Pulse

รู้วัฒนธรรม เข้าใจภาษา   มัดใจนักท่องเที่ยวอินเดีย l World Pulse

อินเดียเป็นประเทศที่อยู่ในช่วงขาขึ้น แซงหน้าจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกไปแล้ว ขนาดเศรษฐกิจส่อเค้ายกระดับตามมา ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจในขณะที่รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมการท่องเที่ยว

World Pulse ได้คุยกับคนรุ่นใหม่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาฮินดีและวัฒนธรรมอินเดีย ทั้ง “ครูบอล” เอกลักษณ์ หนูเงิน อาจารย์นาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม และ “อ.เอลี่” อาจารย์ ดร.วุฒิพงษ์ ถวิลสมบัติ อาจารย์สอนภาษาฮินดี ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร รักษาการรองผู้จัดการศูนย์สันสฤตศึกษา ทั้งสองคนคือผู้ใช้ซอฟต์พาวเวอร์เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจระหว่างชาวไทยกับอินเดีย 

เริ่มต้นจากครูบอล สำหรับคนที่เคยไปร่วมงานของสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยบ่อยๆ จะคุ้นหน้าคุ้นตากับนักแสดงที่รับบทพระรามหรือบทนำอยู่เสมอ ครูบอลได้รับทุน ICCR (Indian Council for Cultural Relations) ของรัฐบาลอินเดีย ระหว่างปี 2017-2019 ไปเรียนภารตนาฏยัม หลักสูตรปริญญาโทที่อินทิรากลาสังคีต (Indira Kala Sangeet Vishwavidyalaya) เมือง  Khairagarh รัฐฉัตติสครห์

แรงบันดาลใจของครูบอลเกิดจากสมัยเป็นนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์ได้ลงเรียนการแสดงแบบเก่าที่ชื่อว่า "กถักกฬิ" ในวิชานาฏศิลป์นานาชาติแล้วรู้สึกว่ายากมากแต่ก็ชอบจึงอยากไปเรียนที่อินเดียให้ได้ 

“ทุกวันนี้ในประเทศไทยมีคนสนใจนาฏศิลป์อินเดียมาก เนื่องจากความเชื่อทางศาสนาฮินดูและวัฒนธรรมอินเดียยังคงอยู่ในสังคมไทย นาฏศิลป์เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม” ครูบอลกล่าวและว่าทางสถานทูตอินเดียเองสนับสนุนในส่วนนี้มากจัดงานแสดงให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักวัฒนธรรมอินเดียและให้ทุนการศึกษาแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้นักเรียนต่างชาติไม่ใช่แค่นักเรียนไทยยังคงหลั่งไหลเข้าไปในอินเดียเพื่อศึกษาแล้วนำนาฏศิลป์อินเดียมาเผยแพร่ต่อ

 ส่วนอาจารย์เอลี่ก็เป็นนักเรียนทุน ICCR เช่นกัน  ไปเรียนปริญญาโทสาขาการแปลภาษาฮินดี ที่มหาตมะคานธีอินเตอร์เนชันแนลฮินดียูนิเวอร์ซิตี้ เมืองวารธา (Wardha) รัฐมหาราษฏระ แรงจูงใจของเธอคือเคยเรียนเอกภาษาไทย  ต้องเรียนเกี่ยวกับจารึก ศิลปวัฒนธรรม และเคยเรียนบาลีสันสกฤตซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย จึงคิดว่าถ้าเรียนภาษาฮินดีจะทำให้เข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

“การเรียนภาษาฮินดีเปรียบเสมือนใบเบิกทางให้เราเข้าใจประเทศอินเดียได้ง่ายขึ้น เมื่อได้เรียนภาษาฮินดีย่อมเข้าใจวัฒนธรรมอินเดียควบคู่กันไปด้วย ที่เรียกกันว่า ภารตวิทยา" อ.เอลี่กล่าวและในฐานะครูสอนภาษาเธอมีมุมมองต่อภาษาฮินดีที่แตกต่างออกไป 

“จริงๆ แล้วภาษาที่ใช้เป็นภาษาสากลในอินเดียหรือโลกนี้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญอยู่แล้ว" แต่ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมาซึ่งเป็นปีแรกที่นายกรัฐมนตรีอินเดียใช้นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ อาหารอินเดีย นาฏศิลป์อินเดีย โยคะ อายุรเวท อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง 

 "ถ้าใช้ในการทำงานภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญ แต่ถ้าจะเข้าใจวัฒนธรรมอินเดียให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเหมือนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเรากับอินเดียภาษาฮินดีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง” อาจารย์สอนภาษาฮินดีกล่าว 

ส่วนกลยุทธ์มัดใจชาวอินเดียให้มาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น อาจารย์ทั้งสองคนเห็นตรงกันว่า ยุคนี้เป็นยุคสื่อโซเชียล อินฟลูเอนเซอร์เดินทางแล้วเก็บประสบการณ์มาบอกเล่าโดยตรง ไทยอาจมีแคมเปญให้คนอินเดียที่มาเที่ยวไทยรีวิวแล้วติดแฮชแท็กจะช่วยให้เข้าถึงคนอินเดียมากขึ้น หรือให้คนไทยใช้ภาษาฮินดีชักชวนคนอินเดียมาท่องเที่ยว  เป็นไกด์นำเที่ยวด้วยภาษาฮินดี เพราะนักท่องเที่ยวอินเดียมีหลายรุ่น บางคนพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องก็ใช้ภาษาฮินดีเป็นสื่อได้

“อีกอย่างที่คนอินเดียชอบมาเที่ยวประเทศไทยคือเรามีวัฒนธรมบางอย่างที่ใกล้กัน เช่น ดิวาลีเหมือนลอยกระทงบ้านเรา โฮลีเหมือนสงกรานต์บ้านเรา เพราะฉะนั้นเราควรยึดโยงสิ่งที่เชื่อมโยงกันอยู่แล้วมาทำให้คนอินเดียเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น” อ.เอลี่สรุปไอเดียคนรุ่นใหม่ที่น่ารับฟัง