‘สี จิ้นผิง’พบ ‘แจ็ค หม่า’ ส่งสัญญาณหนุนภาคเอกชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

‘สี จิ้นผิง’พบ ‘แจ็ค หม่า’   ส่งสัญญาณหนุนภาคเอกชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการคนสำคัญ อาทิ แจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งอาลีบาบา ส่งสัญญาณรัฐบาลปักกิ่งสนับสนุนภาคเอกชนหลังจากความสัมพันธ์ปั่นป่วนมาหลายปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างสื่อทางการจีนว่า เมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) ทางการจีนจัดการประชุมร่วมกับภาคเอกชน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แสดงปาฐกถาหลังรับฟังความคิดเห็นจากนักธุรกิจคนดังหลายราย ทั้งแจ็ค หม่า, เหล่ย จุน ซีอีโอเสียวหมี่, หวังซิงจากเหม่ยถ้วน, หวัง ซิงซิง จากบริษัทหุ่นยนต์ยูนิทรี และเหริน เจิ้งเฟย ผู้ร่วมก่อตั้งหัวเว่ยเทคโนโลยีส์  คนเหล่านี้ถือเป็นบุคคลสำคัญในแผนการใหญ่ของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีอเมริกัน โดยนายกรัฐมนตรีหลี่เฉียงไปร่วมงานด้วย 

ข่าวผู้นำจีนพบบุคคลสำคัญในภาคธุรกิจจีนช่วยหนุนตลาดหุ้นจีน เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงท่าที่ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสนับสนุนภาคเอกชนมากขึ้น บริษัทเหล่านี้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้มากที่สุด

ตอนที่สีจิ้งผิงปราบปรามภาคเอกชนและอินเทอร์เน็ตในปี 2020 หม่าถือเป็นคนดังที่สุดที่ถูกเล่นงาน แอนท์กรุ๊ป ในเครืออาลีบาบาถูกสกัดไม่ให้ทำไอพีโอ เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นการเข้มงวดทางเศรษฐกิจจีนที่ดำเนินต่อเนื่องมาหลายปี รัฐควบคุมเหล่าอภิมหาเศรษฐี และย้ายทรัพยากรไปสู่สิ่งที่สีให้ความสำคัญ จากความมั่นคงแห่งชาติไปสู่การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี

แต่เร็วๆ นี้ทางการจีนเบามือลงเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว และหลายบริษัทรวมถึงอาลีบาบาตอบรับแรงผลักดันของสีในหลายๆ เรื่อง อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)

“นี่คือสัญญาณแรงสุดที่จีนอาจปล่อยมาหนุนความเชื่อมั่นของสังคม ความจริงที่ว่าสี จิ้นผิง มาพบผู้ประกอบการด้วยตนเองเน้นย้ำถึงนัยทางการเมืองในการประชุมครั้งนี้  มันเป็น‘นโยบายอำนวยประโยชน์’มากกว่ากลับตัว 180 องศา จีนเปลี่ยนจากการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาคเอกชนอย่างเข้มงวดช่วงก่อนโควิด เป็นการส่งสัญญาณนโยบายเชิงบวกต่อเศรษฐกิจเอกชน เราเห็นรัฐบาลปักกิ่งเปลี่ยนท่าทีต่อภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดทนอดกลั้น, ปรับปรุง แล้วส่งเสริม"หยู ชวนมาน อาจารย์อาวุโสสำนักกฎหมาย วิทยาลัยสังคมศาสตร์สิงคโปร์ให้ความเห็นกับบลูมเบิร์ก 

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทางการจีนจะเปลี่ยนท่าทีต่อบริษัทเอกชนมากน้อยแค่ไหน การที่สีแสดงให้เห็นว่าสนับสนุนช่วยเพิ่มความคึกคักให้ตลาดหุ้นจีนและเพิ่มขวัญกำลังใจให้ผู้ประกอบการ แต่ที่สำคัญคือทางการจะกระทำการแข็งขันแค่ไหน

ผู้จับตาจีนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คาดว่ารัฐบาลจะกลับไปใช้ท่าทีแบบก่อนปี 2020 แม้จีนจะพยายามเสริมแกร่งเศรษฐกิจรับมือสงครามการค้ากับสหรัฐภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งในบรรดานักธุรกิจไม่มีใครรู้ซึ้งถึงความขึ้นๆ ลงๆ ในภาคเอกชนจีนได้เท่ากับหม่าอีกแล้ว

อดีตครูสอนภาษาอังกฤษรายนี้ตั้งบริษัทอาลีบาบาขึ้นจากอพาร์ทเมนท์ริมทะเลสาบในปี 1999 จากนั้นเอาชนะคู่แข่งต่างชาติ อาทิ เบย์อิงค์ได้ก่อนเติบโตเป็นบริษัทใหญ่สุดแห่งแดนมังกร สร้างชื่อเสียงให้กับหม่าในฐานะขาใหญ่แห่งอุตสาหกรรมเอกชนและนวัตกรรมเทคโนโลยี

ในปี 2015 หลังอาลีบาบายกเลิกแผนเสนอข่าวหุ้นต่อสาธารณะครั้งใหญ่สุดของโลก สีและหม่าพบกันนอกรอบการประชุมผู้นำภาคธุรกิจสหรัฐ ที่มีผู้บริหารบริษัทต่างชาติ อาทิ ทิม คุก และมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กร่วมประชุมด้วย ในปีนั้นทั้งคู่ยังได้พบกันอีกในงานประชุมประจำปีอู่เจิ้นที่รัฐสนับสนุน เป็นการรวมตัวของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ด้านอินเทอร์เน็ต

เป้ยเฉียน หลิว นักเศรษฐศาสตร์เอเชียจากบริษัทฟิเดลิตี อินเตอร์เนชันแนล เผยกับซีเอ็นบีซีว่า

การมาร่วมงานประชุมกับภาคเอกชนของสีส่งสัญญาณ “ชัดเจนมากถึงการสนับสนุนระดับสูงสุด” ต่อผู้ประกอบการ “นี่จะจุดประกายความคึกคักและความหวังถึงโมเมนตัมทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ในจีน”

“เป็นไปได้ว่านี่อาจมีพลังมากกว่ามาตรการกระตุ้นทางการคลัง เมื่อผู้กำหนดนโยบายแสดงการสนับสนุนอย่างแข็งขันมากขึ้นต่อการพัฒนาภาคเทคโนโลยีในจีน” หลิวกล่าว

อีกหนึ่งสัญญาณการสนับสนุนเห็นได้จากรายงานข่าวของสื่อทางการจีนซีจีทีเอ็น ระบุว่า สมาชิกรัฐสภาจีน “กำลังพิจารณาร่างกฎหมายเน้นการเติบโตของภาคเอกชนเป็นฉบับแรก ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการพัฒนาภาคเอกชนให้เหมาะสมยิ่งขึ้นและขับเคลื่อนการเติบโตที่มีคุณภาพสูง”

รายงานข่าวย้ำด้วยว่า ภาคเอกชนคิดเป็นกว่า 60% ของจีดีพีจีน,48.6% ของการค้าต่างประเทศ, 56.5% ของการลงทุนในสินทรัพย์คงที่, 59.6% ของรายได้ภาษี และกว่า 80% ของการจ้างงานในเมือง

“ภาคส่วนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและสร้างเสถียรภาพให้กับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ” ซีจีทีเอ็นระบุ