'มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นแฟน' ทองคำในจีนพุ่งรับวาเลนไทน์

'มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นแฟน' ทองคำในจีนพุ่งรับวาเลนไทน์

ยอดขายทองรูปพรรณพุ่งในจีนรับเทศกาลวาไลนไทน์ คู่รักเปลี่ยนจากให้ของแบรนด์เนม ไปเป็นทองขนาดเล็ก มีค่าทั้งทางใจและการลงทุน ขณะที่คนโสดก็ซื้อให้ของขวัญตัวเอง

สำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ (SCMP) รายงานว่า กระแสความต้องการเครื่องประดับทองคำพุ่งสูงขึ้นในจีนก่อนวันวาเลนไทน์ เนื่องจากผู้บริโภคเลิกซื้อของขวัญหรูหราอื่นๆ และหันมาซื้อทองรูปพรรณให้แทน โดยทองคำเข้ามาแทนที่กระเป๋าถือดีไซเนอร์และเครื่องสำอางราคาแพง ซึ่งถือเป็นของขวัญหรูหราที่ผู้บริโภคชาวจีนต้องมีในปีนี้

ราคาเครื่องประดับทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนต้องการหาสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับการออมเงิน และยังมีปัจจัยที่ไม่คาดคิดที่ทำให้ความต้องการทองคำพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งคือ คู่รักหนุ่มสาวที่หันมาซื้อทองให้กันมากขึ้น

การออกแบบที่ทันสมัย ​​เช่น เครื่องประดับทองคำขนาดเล็กที่ดีไซน์เหมือนช่อดอกกุหลาบ ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ โดยยอดขายพุ่งสูงขึ้นถึง 445% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามรายงานของสื่อในประเทศที่อ้างอิงข้อมูลจากร้านขายเครื่องประดับและร้านค้าออนไลน์

พนักงานขายในร้านจิวเวลรี่รายหนึ่งในเมืองกว่างโจว ทางตอนใต้ของจีน เปิดเผยกับ SCMP ว่า แบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวันวาเลนไทน์ปีนี้คือ เครื่องประดับทองคำรูปดอกกุหลาบ ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 1-2 กรัม (ไม่ถึงสิบออนซ์) โดยขายในราคาชิ้นละประมาณ 1,000-2,000 หยวน (ราว 4,650 - 9,300 บาท)

“ปัจจุบันมีลูกค้าชายหนุ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน” เธอกล่าวเสริม

พนักงานขายอีกคนในร้านแห่งหนึ่งที่เหอหนาน ทางตอนกลางของจีน เปิดเผยว่า ยอดขายทองคำในวันวาเลนไทน์ ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่า เมื่อเทียบปีก่อน 

“เครื่องประดับรูปดอกกุหลาบ สร้อยคอ และสร้อยข้อมือเป็นสินค้าขายดี” พนักงานให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น Hntv เมื่อวันพฤหัสฯ และกล่าวด้วยว่าลูกค้าเลือกเครื่องประดับทองเพราะรู้สึกว่าเป็นสินค้าโรแมนติกและจะรักษามูลค่าของสินค้าไว้ได้

ทั้งนี้ ราคาเครื่องประดับทองคำ ของร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ในจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 12% ในปีนี้ และเพิ่มขึ้นกว่า 890 หยวนต่อกรัม เมื่อต้นสัปดาห์นี้

แรงกระตุ้นยอดขายอีกประการหนึ่งคือ กระแสการบริโภคที่เรียกว่า Yueji ซึ่งผู้หญิงจีนจะซื้อเครื่องประดับให้กับตัวเองเพื่อเป็นเหมือนการซื้อของขวัญให้คุณค่ากับตัวเอง

เติ้ง เจี้ยนผิง ทนายความที่อาศัยอยู่ในกว่างโจวกล่าวว่า เธอตั้งงบไว้ประมาณ 1 แสนหยวนต่อปี (ราว 4.65 แสนบาท) เพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นรางวัลให้กับตัวเอง

“ปีนี้ ฉันตั้งใจว่าจะไม่ซื้อกระเป๋าฟุ่มเฟือยแล้วหันมาซื้อทองแทน” เธอกล่าวและเสริมว่า สำหรับเธอและเพื่อนๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศที่มีฐานะดี "ทองคำได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาและรสนิยมอีกครั้ง"

ตามรายงานของบริษัทวิจัย Baiguan พบว่า ความต้องการทองคำของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งในปีนี้ ส่วนหนึ่งยังเกิดจากราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดต่างประเทศและความไม่แน่นอนล่าสุดในตลาดหุ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยประกอบอื่นๆ เช่น ผู้บริโภคจีนรุ่นใหม่ ที่หันมาชื่นชอบสไตล์จีนดั้งเดิมกันมากขึ้น รวมถึงความสำเร็จของแบรนด์เครื่องประดับในการออกแบบอย่างสร้างสรรค์เพื่อดึงดูดใจลูกค้าเจนใหม่

รายงานอ้างข้อมูลจากสมาคมทองคำจีนว่า การบริโภคทองคำทั้งหมดของจีนเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงวันหยุดตรุษจีนในปี 2568 โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นแรงผลักดันส่วนใหญ่ของการเพิ่มขึ้น แต่แม้จะมีคนจำนวนมากขึ้นที่หันมาซื้อทองคำ การซื้อกลับเป็นชิ้นเล็กลงหรือมีปริมาณทองน้อยลง 

ตามการสำรวจของไชน่า โกลด์ นิวส์ ก่อนหน้านี้พบว่า การซื้อทองในร้านมากกว่า 55% ในปีที่แล้ว เป็นทองที่มีน้ำหนักไม่ถึง 10 กรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 37% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า