'ประชุมสันติภาพยูเครน' จบแบบไร้ดีลแร่หายากที่สหรัฐเรียกร้อง

การประชุมสหรัฐ-ยูเครน เพื่อยุติสงครามรัสเซียกับยูเครนจบลงแล้วแบบไร้ดีลสำคัญเรื่องแร่หายาก ที่เป็นเงื่อนไขของทรัมป์ เซเลนสกีย้ำต้องได้รับประกันความปลอดภัยก่อน
การประชุมเพื่อมุ่งยุติสงครามในยูเครนที่เมืองมิวนิก เยอรมนี ระหว่างฝ่ายสหรัฐที่นำโดยรองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์ และฝ่ายยูเครนที่นำโดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้จบลงไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ก.พ. โดย "ไม่ได้มีการประกาศข้อตกลงสำคัญด้านแร่หายาก" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันให้กรุงเคียฟได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
รอยเตอร์สระบุว่า ยูเครนได้กลับมาคุยกับสหรัฐพร้อมกับร่างข้อตกลงฉบับแก้ไขใหม่ ซึ่งอาจเปิดแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสำคัญจำนวนมหาศาลให้สหรัฐเข้ามาลงทุนได้ โดยมีขึ้นหลังจากที่ฝ่ายสหรัฐได้ยื่นเสนอข้อตกลงที่ทำให้กรุงเคียฟกังวลใจไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
"ทีมของเราจะยังคงทำงานกับเอกสารนี้ต่อไป" และเขาได้ "พบปะกันอย่างดี" กับแวนซ์ ซึ่งกรุงเคียฟ "พร้อมที่จะเดินหน้าไปสู่สันติภาพที่แท้จริงและรับประกันได้โดยเร็วที่สุด" เซเลนสกีโพสต์บนแพลตฟอร์ม X
สมาชิกคณะผู้แทนยูเครน 2 คนเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ต้องดำเนินการอยู่
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าปัญหาอยู่ที่จุดใด แต่ยูเครนกำลังกดดันให้มีการ "รับประกันความปลอดภัย" อย่างแข็งขันจากทั้งสหรัฐและยุโรป ว่าจะปกป้องยูเครนจากรัสเซียในอนาคตหากบรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว
ยูเครนย้ำต้องได้รับประกันความปลอดภัย
เรื่องนี้สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าวเอพีที่ระบุว่า ในการประชุมกับเป็นเวลาประมาณ 40 นาที เซเลนสกีได้กล่าวกับแวนซ์ว่าเขาต้องการให้มีการ "รับประกันความปลอดภัย" ก่อนการเจรจาใดๆ กับรัสเซีย
การประชุมจบลงโดยไม่มีการประกาศรายละเอียดสำคัญใดๆ เกี่ยวกับวิธีการยุติสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่ยืดเยื้อมานานถึง 3 ปี และนองเลือดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ฝั่งเซเลนสกีได้ย้ำถึงเรื่อง "สันติภาพที่แท้จริง"
"เราต้องการสันติภาพมาก แต่เราก็ต้องการการรับประกันความปลอดภัยที่แท้จริงด้วย" เซเลนสกีกล่าว
ในส่วนของรองประธานาธิบดีสหรัฐนั้น เขากล่าวเพียงว่ารัฐบาลทรัมป์มุ่งมั่นที่จะค้นหาสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างยูเครนและรัสเซีย
ดีลแร่หายากอาจไม่ลงตัว
ก่อนหน้านี้ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้เดินทางไปกรุงเคียฟ พร้อมข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่องแร่หายากในยูเครน และเปิดเผยว่า แผนการของรัฐบาลทรัมป์ที่จะยุติสงครามยูเครนกับรัสเซียนั้น "จะเชื่อมโยงเศรษฐกิจของเคียฟเข้ากับสหรัฐ" โดยสหรัฐจะนำ "แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด" ของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมาปรับใช้
"ส่วนหนึ่งเริ่มต้นด้วยการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของยูเครนเข้ากับสหรัฐมากขึ้น และให้แน่ใจว่าผู้เสียภาษีของสหรัฐจะได้รับผลตอบแทนสำหรับเงินที่ลงทุนไป"
รอยเตอร์สรายงานว่าในระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีกล่าวว่าได้ระบุโครงร่างของข้อตกลงแล้วและแสดงข้อมูลแหล่งแร่ธาตุจำนวนมากซึ่งเขาระบุว่า กำลังเสนอความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนาร่วมกัน ไม่ใช่ "แจกให้ฟรี"
แร่ธาตุดังกล่าวรวมถึงแร่หายากหลายชนิด เช่น ไททาเนียม ยูเรเนียม และลิเทียม เป็นต้น
ทรัมป์ ซึ่งยังไม่ให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือทางทหารที่สำคัญแก่ยูเครนต่อไป ได้กล่าวว่าเขาต้องการแร่ธาตุหายากมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์จากเคียฟ และการสนับสนุนใดๆ จากวอชิงตันนั้นจะต้องมีการบรรลุข้อตกลงกันอย่างชัดเจนก่อน
รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าว 3 รายที่เกี่ยวข้องว่า ในระหว่างการประชุมลับเป็นเวลาประมาณ 90 นาที ที่เมืองมิวนิก เซเลนสกีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอของสหรัฐที่นำเสนอในวันพุธ เขารู้สึกว่าถูกขอให้ลงนามในสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลซึ่งเขาไม่เคยมีโอกาสอ่าน ทำให้เซเลนสกีได้ยื่นข้อเสนอที่แก้ไขใหม่เกี่ยวกับแร่ธาตุสำคัญ โดยระบุว่าร่างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของยูเครน
แหล่งข่าวอีก 2 รายระบุว่าข้อเสนอที่เบสเซนต์เสนอนั้นเป็น “ข้อเสนอข้างเดียว” แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม