โพลล์รอยเตอร์สชี้ 'เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4' โตแกร่งสุดในรอบ 2 ปี

โพลล์รอยเตอร์สชี้ 'เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4' โตแกร่งสุดในรอบ 2 ปี

ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์สชี้ จีดีพีของไทยไตรมาส 4/2567 ขยายตัวแรงสุดในรอบกว่า 2 ปี จากแรงหนุนท่องเที่ยวฟื้น และส่งออกโตแกร่ง ช่วยชดเชยแรงซื้อที่ซบเซา

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ล่าสุดวันนี้ (14 ก.พ.68) ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวที่มากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี จากแรงหนุนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และการส่งออกที่ขยายตัวดีขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยอุปสงค์ภายในประเทศที่ซบเซาลงได้ 

เป็นที่คาดว่าการบริโภคในครัวเรือนของไทยจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายแจกเงินเพื่อกระตุ้นอุปสงค์แล้วก็ตาม แต่การส่งออก และนักท่องเที่ยวที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลวันหยุดอาจช่วยสนับสนุนการเติบโตได้

ผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ 15 คน ระหว่างวันที่ 6-12 กุมภาพันธ์ 2568 คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสเดือนต.ค.- ธ.ค.2567 จะขยายตัวได้เฉลี่ย 3.9% เมื่อเทียบปีก่อน (จากตัวเลขคาดการณ์ระหว่าง 3.1 - 4.6%) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่เติบโตได้ 3.0% ในไตรมาสก่อนหน้า 

“ข่าวดีก็คือ การฟื้นตัวของการส่งออกของไทยเมื่อปีที่แล้วยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสที่ 4 ทั้งด้านสินค้า และบริการ โดยภาคบริการส่วนใหญ่สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว” มิเกล ชานโก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดเกิดใหม่เอเชียจากแพนธีออน แม็คโครโนมิกส์ กล่าว

“หากสรุปไตรมาส 4 แบบรวบรัดคือ อุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง แต่ได้รับการชดเชยในระดับหนึ่งจากการส่งออกที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อ” ชานโก กล่าว

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเป็นรายไตรมาส ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แบบปรับตามฤดูกาลแล้วจะขยายตัวได้ 0.7% ลดลงจาก 1.2% ในไตรมาสก่อนหน้า 

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนในผลสำรวจนี้ระบุว่า ภาคบริการยังคงเร่งตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว แต่ภาคการผลิตยังคงประสบปัญหา โดยยูจีน ตัน นักเศรษฐศาสตร์จากมูดีส์ ระบุว่า การชะลอตัวของภาคการผลิตเกิดจาก "อุปสงค์ที่ลดลงในอุตสาหกรรมรถยนต์"

“ในด้านรายจ่ายนั้น การบริโภคภาคเอกชนซึ่งเป็นส่วนสำคัญของจีดีพีชะงักงัน ส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจโดยรวม” ตัน กล่าว

แม้รัฐบาลคาดการณ์จีดีพีไทยจะเติบโต 3.0% ในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นจาก 1.9% ในปี 2566 แต่นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตือนว่าการบริโภคที่อ่อนแออาจทำให้การเติบโตชะงักงัน โดยในบทสัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐพุฒิ มองว่าการเติบโตที่แท้จริงอาจใกล้เคียงกับระดับ 2.7% ซึ่งสอดคล้องกับค่ากลางในโพลล์ของรอยเตอร์

การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นแหล่งรายได้หลักของการท่องเที่ยว ร่วมกับปัจจัยอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอลง และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น อาจกดดันแนวโน้มการค้าของประเทศไทยมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตในปีนี้

สำหรับในปี 2568 นี้ ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์สคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเฉลี่ย 2.9% ในขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 3.5%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์