'ญี่ปุ่น' แซง 'ไทย' เป็นจุดหมายหลักคนจีนเที่ยวตรุษจีน

'ญี่ปุ่น' แซง 'ไทย' เป็นจุดหมายหลักคนจีนเที่ยวตรุษจีน

'ไทย' เสียแชมป์ให้ 'ญี่ปุ่น' ในฐานะจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของคนจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ฮิตเที่ยว โตเกียว-โอซาก้า-ซัปโปโร คาดกรณี 'ต้าเอส' ไม่่สะเทือนความเชื่อมั่น

เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ "ประเทศไทย" ครองตำแหน่งเบอร์ 1 จุดหมายปลายทางที่ชาวจีนนิยมเดินทางไปเที่ยวมากที่สุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทว่าในปี 2568 นี้ ไทยได้เสียแชมป์ให้กับ "ญี่ปุ่น" ไปแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวที่ชาวจีนกำลังหลีกเลี่ยงการมาเที่ยวไทย 

สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่ไป "ญี่ปุ่น" ในช่วงวันหยุดตรุษจีน 8 วัน ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 4 ก.พ. ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมไปมากที่สุดแซงหน้า "ประเทศไทย" ไปแล้ว 

สถานการณ์ล่าสุดนี้ตอกย้ำทิศทางเดียวกันกับในปี 2567 ที่ญี่ปุ่นก็แซงหน้าประเทศไทยเช่นกันในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าทั้งหมด ซึ่งอยู่ที่ 36.87 ล้านคน เทียบกับของไทยที่ 35.55 ล้านคน ตามข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ซึ่งบ่งชี้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไปญี่ปุ่นมากขึ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นขยายตัวขึ้น

ข้อมูลจากบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ Trip.com Group ระบุว่า ในช่วงวันหยุดตรุษจีนปีนี้ การเดินทางระหว่างประเทศของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน สอดคล้องกับที่บริษัทตงเฉิง ทราเวิล ระบุว่า ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน แซงหน้า "มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไทย" 

ราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกลงส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ตามข้อมูลของสำนักงานการบินพลเรือนจีน พบว่า มีเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศโดยเฉลี่ยมากถึง 1,888 เที่ยวบินต่อวันในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเพิ่มขึ้น 24.6% เมื่อเทียบกับตรุษจีนปี 2567

สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางญี่ปุ่น 54% และมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 71.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่สายการบินไชนีส สปริง แอร์ไลน์ส มีเที่ยวบินไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น 76% 

ยอดการจองโรงแรมในต่างประเทศซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น ก็พุ่งขึ้นเช่นกันถึงขึ้นกว่า 300% ในวันส่งท้ายปีเก่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยตงเฉิงระบุว่า การจองเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เช่น "ซัปโปโรและชิบะในญี่ปุ่น ยะโฮร์ในมาเลเซีย ดานังในเวียดนาม และเซบูในฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นมากกว่าห้าเท่า" โดยการจองโรงแรมในสี่วันแรกของวันหยุดตรุษจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ในจุดหมายปลายทางเหล่านี้

ตามรายงานของทริปดอตคอม พบว่า ซัปโปโรกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับที่ 3 ในประเทศญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา รองจากโตเกียวและโอซาก้า

บริษัทตัวแทนท่องเที่ยว JTB ในญี่ปุ่นรายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะพวกที่เดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัว จะนิยมไปเที่ยวที่ "ทะเลสาบโทยะ" ในฮอกไกโด เป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ ทะเลสาบคาวากูจิโกะในจังหวัดยามานาชิ และซัปโปโร

จากการผ่อนปรนข้อจำกัดด้านวีซ่า ทำให้บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาการท่องเที่ยว JTB คาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาญี่ปุ่นในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นอีกถึง 33% เป็นประมาณ 9.3 ล้านคน โดยปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ดึงดูดก็คือ ความที่ประเทศอยู่ใกล้กันและค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง

"แม้ว่าการออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศของจีนจะฟื้นตัวกลับมาเหมือนในปี 2019 ได้ยาก แต่สัดส่วนการเดินทางออกไปเที่ยวญี่ปุ่นนั้นสูงเกินกว่าช่วงก่อนโควิดไปแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2568 เนื่องมาจากการผ่อนปรนวีซ่า" บริษัทวิจัยฯ ระบุ

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยว 60 ล้านคนภายในปี 2573 เพิ่มขึ้นจาก 36.8 ล้านคนในปี 2567 แต่ก็ใช่ว่าการดึงดูดเม็ดเงินจากจีนจะเป็นเรื่องง่าย 

ตลาดท่องเที่ยวขาออกของจีนยังคงฟื้นตัวได้ช้าจากช่วงก่อนโควิด โดยการฟื้นตัวนี้ทรุดไปตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง จีดีพีขยายตัวต่ำกว่า 5% และบรรยากาศการดำเนินธุรกิจที่อ่อนแรงลง ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน

สายการบินญี่ปุ่น ANA ได้ร่วมมือกับทริปดอตคอม ในเดือนต.ค. 2567 เพื่อขายตั๋วออนไลน์โดยตรง นอกจากนี้ยังเปิดตัวโปรโมชั่นในเดือนม.ค. เสนอบริการรับส่งฟรีในญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเท่ยวจีน โดยเมื่อต้นเดือนนี้ คิมิฮิโระ นากาโฮริ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของ ANA เผยว่าบริษัทมีรายได้เติบโตมากกว่า 50% จากเส้นทางจีนในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา และคาดหวังว่าจะสามารถรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวจีนได้

ทางฟากผู้ค้าปลีกในญี่ปุ่นเองก็กระตือรือร้นในการดึงดูดนักชอปแดนมังกรเช่นกัน ห้างสรรพสินค้าทาคาชิมายะ (Takashimaya) เปิดเผยว่า มีนักชอปชาวจีนเข้ามาเยี่ยมชมและซื้อสินค้าอย่างล้นหลามในช่วงวันหยุดตรุษจีน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีฐานะดี ซึ่งแห่กันมาซื้อแบรนด์หรูและเครื่องสำอาง ทำให้ยอดขายสินค้าปลอดภาษีให้กับลูกค้าชาวจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบปีที่แล้ว

ทางห้างได้เปิดให้บริการแปลภาษาบนหน้าจอที่ใช้มนุษย์มาแปลจริงๆ ซึ่งไม่เพียงช่วยให้สื่อสารกับลูกค้าชาวจีนได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อต่างๆ ที่ต้องมีการพูดคุยสอบถามกัน โดยระบบช่วยผ่านหน้าจอนี้ถูกติดตั้งทั้งบนอุปกรณ์กอล์ฟในห้างหรือรถเข็นเด็ก และให้บริการในห้างทาคาชิมายะขนาดใหญ่ 5 แห่งในชินจูกุ นิฮงบาชิ โยโกฮามา โอซาก้า และเกียวโต รวมถึงเอาท์เล็ตที่โอคายามะด้วย

อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวอาจไม่เป็นไปตามรูปแบบที่คาดเดาได้เสมอไป เนื่องจากเหตุการณ์บน "โซเชียลมีเดีย" อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทาง ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับ "ไทย" มาแล้วจากกรณีนักแสดงชาวจีน หวัง ซิง ที่มีรายงานข่าวว่าถูกหลอกให้มาถ่ายงานในไทย ก่อนจะหายตัวไปอยู่ที่เชวโกะโกในเมียนมา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องกาสิโน การหลอกลวงทางออนไลน์ และการค้ามนุษย์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดปฏิกิริยาบนโซเชียลมีเดียในจีนอย่างล้นหลาม

ข่าวการเสียชีวิตของ "ต้าเอส" หรือซันไช่ จากเรื่องรักใสๆ หัวใจ 4 ดวง ขณะเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงตรุษจีนยังทำให้เกิดการคาดเดากันอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดียของจีน คำว่า “ไข้หวัดใหญ่ญี่ปุ่น” ยังคงเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลเว่ยป๋อในจีนด้วย แต่เป็นที่คาดว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อแผนการเดินทางของชาวจีนเท่านั้น

ซิโม่ ซู่ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยตงเฉิงกล่าวว่า โรคดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวและไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรง ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปญี่ปุ่น และยังไม่มีตัวเลขที่บ่งชี้ถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของการจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนก.พ.

“ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมาโดยตลอด” “เราเชื่อว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวจะไม่ส่งผลกระทบต่อความนิยมของญี่ปุ่นในฐานะจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว”