ยอดแต่งงานในจีน ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ 6.1 ล้านคู่ สวนทางหย่าร้าง

ยอดแต่งงานในจีน ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ 6.1 ล้านคู่ สวนทางหย่าร้าง

ยอดแต่งงานในจีน ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ แตะ 6.1 ล้านคู่ รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้คนแต่งงานมีลูก ยับยั้งจำนวนประชากรลดลงในจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ตามข้อมูลของกระทรวงกิจการพลเรือนจีนที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (8 ก.พ.) ระบุว่า ในปี 2567 มีคู่รักชาวจีนจดทะเบียนสมรส ราว 6.1 ล้านคู่ ลดลงจากปีก่อนหน้า 20.5% และถือเป็นยอดการสมรสจีน ตกต่ำที่สุดของ นับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติในปี 2529

จำนวนคู่รักที่แต่งงานลดลงอย่างมากในปีก่อน เป็นยอดที่ลดลงต่อเนื่องมานานนับสิบปี ตั้งแต่ปี 2556 หลังจากฟื้นตัวช่วงสั้นๆ ในปี 2566 เมื่อยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 และตัวเลขการแต่งงานเมื่อปีที่แล้วยังน้อยกว่า 50% ของยอดการจดทะเบียนสมรสที่แตะระดับสูงสุด 13 ล้านคู่ในปี 2556 อีกด้วย

นอกจากนี้ ข้อมูลกังกล่าวบ่งชี้ด้วยว่า มีการหย่าร้างเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยในปี 2567 มีจำนวนคู่รักที่หย่าร้างเกือบ 2.6 ล้านคู่ เพิ่มขึ้น 28,000 คู่ จากปี 2566

ประเทศจีน มีข้อกำหนดที่ผู้ยื่นฟ้องอย่าต้องใช้เวลาพักตัดสินใจก่อนหย่า 30 วัน นับตั้งแต่ปี 2564 แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อกำหนดดังกล่าวอาจทำให้ผู้หญิงออกจากชีวิตแต่งงานที่แตกสลาย หรือชีวิตการแต่งงานที่เผชิญกับความรุนแรงได้ยาก

ขณะที่ประชากรจีนลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้มีเด็กเกิดใหม่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อปีก่อน ส่วนจำนวนประชากรวัยทำงาน ซึ่งเป็นวัยที่มีอายุระหว่าง 16-59 ปี ลดลง 6.83 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นยอดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และจำนวนประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สู่ระดับสัดส่วน 22% ของประชากรทั้งหมด

ทางการจีนพบว่ายอดการแต่งงานลดลงมีความเชื่อโยงระหว่างกับข้อมูลเด็กเกิดใหม่ตกต่ำลง ซึ่งยอดการแต่งงานและจำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ลดลงสร้างความท้าทายต่อรัฐบาลปักกิ่งอย่างมาก ขณะที่ประเทศเผชิญกับความกดดันจากจำนวนแรงงานที่ลดลงและประชากรสูงอายุเพิ่มสูงขึ้น

ในการยับยั้งไม่ให้ตัวเลขน้อยลงไปกว่านั้น รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการมากมาย ตั้งแต่เสนอเงินอุดหนุนไปจนถึงการรณรงค์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้คนหนุ่มสาวแต่งงานและมีลูก อาทิ จัดอีเวนท์ blind dating หรือการเดตกันแบบที่ผู้ออกเดตไม่เคยพบกันมาก่อน จัดงานแต่งงานหมู่ และพยายามลดทอนวัฒนธรรมการจ่าย ‘สินสอด’ จำนวนมากจากฝ่ายเจ้าบ่าวให้กับฝ่ายเจ้าสาว เพื่อให้ผู้ชายยากจนในชนบทมีโอกาสแต่งงานได้มากขึ้น ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งเสนอเงินอุดหนุนให้คู่รักแต่งงานกันด้วย

อย่างไรก็ตาม นโยบายเหล่านั้นยังไม่สามารถจูงในคนหนุ่มสาวชาวจีนที่เผชิญกับการว่างงาน ค่าครองชีพที่แพงขึ้น และขาดการสนับสนุนด้านสวัสดิการสังคมที่มั่นคงท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ชาวจีนหลายคนจึงเลื่อนการแต่งงานและการมีลูก และมีคนหนุ่มสาวอีกจำนวนมากที่เลือกจะเป็นโสด

 

อ้างอิง: CNN