'4 บิ๊กเทค' ทุ่ม 3 แสนล้านดอลลาร์ ลงทุน AI เดิมพันครั้งใหญ่สมรภูมิ AI ดุเดือด

เหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ วางแผนทุ่มเงินกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เดิมพันครั้งใหญ่สมรภูมิ AI ดุเดือด Amazon ทุ่มมากสุด 1 แสนล้านดอลลาร์
ซีเอ็นบีซีรายงานว่าเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งเมตา(Meta) อะเมซอน(Amazon) อัลฟาเบท(Alphabet) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) เผยว่าจะทุ่มเงินลงทุนมหาศาลกว่า 320,000 ล้านดอลลาร์สำหรับเทคโนโลยี AI และการสร้างศูนย์ข้อมูลในปี 2568 ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่องจากในปี 2567
นับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ในปี 2565 บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ได้ทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการ AI โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายศูนย์ข้อมูลด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของ Nvidia จำนวนมาก และพัฒนาโมเดล AI ของตนเอง
การเติบโตล่าสุดของ DeepSeek ของจีนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวงการ AI ส่งผลให้หุ้นของผู้ผลิตชิป AI อย่าง Nvidia และ Broadcom ลดลงรวมกัน 800,000 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีของสหรัฐต้องตอบคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นในแผนการใช้จ่ายมหาศาล
Amazon
Amazon เป็นบริษัทที่ทุ่มเงินลงทุนไปกับการพัฒนา AI มากที่สุดในกลุ่มหุ้น “7 นางฟ้า” โดยมีแผนที่จะใช้เงินมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567
แอนดี้ เจสซี่ ซีอีโอของ Amazon กล่าวในระหว่างการแถลงผลประกอบการของบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เงินทุนส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับปัญญาประดิษฐ์สำหรับแผนก Amazon Web Services (AWS) และโอกาสทางธุรกิจที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
“ผมคิดว่าทั้งธุรกิจของเรา ลูกค้า และผู้ถือหุ้นของเราจะต้องพึงพอใจในระยะกลางถึงระยะยาว เพราะเรากำลังแสวงหาโอกาสในการลงทุน และโอกาสทางธุรกิจในด้าน AI”
Microsoft
Microsoft กำลังเดินหน้าลงทุนอย่างหนักในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทได้ประกาศแผนการลงทุน 80,000 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2568 (ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน) เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรองรับการทำงานของ AI
Alphabet
Alphabet บริษัทแม่ของ Google วางแผนที่จะลงทุนอย่างหนักในปีนี้ โดยตั้งเป้าการใช้จ่ายด้านทุนไว้ที่ 75,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการลงทุน 16,000 - 18,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี
อานัต อาชเคนาซี หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Alphabet กล่าวว่า เงินทุนส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้กับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI โดยการลงทุนหลักจะมุ่งเน้นไปที่เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ รองลงมาคือ ศูนย์ข้อมูล ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ และระบบเครือข่าย ซึ่งเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน
Meta
ในขณะเดียวกัน “มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอของ Meta ได้กำหนดงบประมาณด้านการลงทุนด้าน AI ของบริษัทไว้ที่ 60,000 - 65,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม
ซักเคอร์เบิร์ก มองว่าปี 2568 จะเป็น "ปีแห่งการกำหนดทิศทางของ AI" และเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้ Meta สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ และรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ไว้ได้ รวมทั้งการลงทุนใน AI จะช่วย "ปลดล็อกนวัตกรรมทางประวัติศาสตร์"
ทิศทาง AI ของ Apple Tesla และ Nvidia
Apple
แม้ว่าแอปเปิ้ล (Apple) จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการใช้จ่ายด้าน AI อย่างชัดเจน แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าบริษัทได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีนี้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนส่วนใหญ่ของ Apple มักจะซ่อนอยู่ในค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทเลือกที่จะเช่าบริการฝึกอบรม AI จากผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่อย่าง Google Cloud, AWS และ Azure แทนที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง
ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ได้กล่าวถึงแนวทางการลงทุนด้าน AI ของบริษัทว่า Apple ใช้แนวทางแบบผสมผสาน โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยี AI ภายในบริษัทเอง และในขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก ซึ่งหมายความว่าการลงทุนของ Apple ใน AI อาจไม่ได้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในงบการเงิน แต่จะกระจายอยู่ในส่วนต่างๆ ของธุรกิจของบริษัท และพันธมิตร
Tesla
เทสลา (Tesla) ได้เปิดเผยรายละเอียดการใช้จ่ายด้าน AI โดยระบุว่าในปี 2024 บริษัทใช้จ่ายเงินทุนไปประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายด้านทุนทั้งหมดของบริษัทที่ 11.34 พันล้านดอลลาร์ Tesla คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายในส่วนของ AI จะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
นอกจากนี้ Tesla ยังได้สร้าง "คลัสเตอร์การฝึกอบรม" ที่มีชื่อว่า Cortex ขึ้นภายในโรงงานของบริษัทในรัฐเท็กซัส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการฝึกโมเดล AI ที่จะนำไปใช้ในเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติและหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
Nvidia
ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ กำลังเปิดเผยค่าใช้จ่ายด้าน AI ของตน อินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) ชั้นนำที่ใช้ในการพัฒนา AI จะยังไม่เปิดเผยผลประกอบการจนกว่าจะถึงปลายเดือนนี้
เป็นที่คาดการณ์ว่าตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านทุน (Capex) ของ Nvidia จะแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ อย่างมาก เนื่องจาก Nvidia ไม่ได้ซื้อเทคโนโลยี AI แต่เป็นผู้พัฒนาและจัดหาเทคโนโลยีดังกล่าวเสียเอง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์