มัสก์ร้องถอดถอนผู้พิพากษาปิดกั้นข้อมูลกระทรวงการคลัง

อีลอน มัสก์ เรียกร้องให้ถอดถอนผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางในนิวยอร์ก ที่ออกคำสั่งไม่ให้เขาและทีม DOGE เข้าถึงระบบการชำระเงินและข้อมูลละเอียดอ่อนของกระทรวงการคลัง
ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มัสก์ ได้โพสต์ข้อความบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ X ที่เขาเป็นเจ้าของ โดยเรียกนายพอล เอนเกิลเมเยอร์ ว่า “ผู้พิพากษาที่ทุจริตและปกป้องการทุจริต” พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมว่า “เขาต้องถูกถอดถอนทันที!” นอกจากนี้ เขายังโพสต์คำอธิบายบน X เกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการทำกับกระทรวงการคลัง
มัสก์และพนักงานรัฐบาลพิเศษของเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการกระทรวงเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ (DOGE) ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้หาวิธีลดงบประมาณของรัฐบาลกลาง ลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลางลงอย่างมาก และยกเลิกกฎระเบียบและหน่วยงานของรัฐบาลกลางให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำนักข่าวเอพีรายงานก่อนหน้านี้ว่า จนถึงขณะนี้ ทีม DOGE ของมัสก์ได้กำหนดเป้าหมายไปที่หน่วยงานที่ใช้งบประมาณของรัฐบาลกลางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งรวมถึงหน่วยงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่างประเทศอย่าง USAID โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DOGE “พยายามเข้าถึงระบบการชำระเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐเพื่อหยุดไม่ให้เงินไหลเข้าสู่หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ”
เอนเกิลเมเยอร์ ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกคำสั่งระงับการเข้าถึงระบบ ของกระทรวงการคลังโดย DOGE เป็นการชั่วคราวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองต่อข้อร้องเรียนของอัยการสูงสุดของรัฐ 19 รัฐที่ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ กระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ สก็อตต์ เบสเซนต์
ต่อมา มัสก์ได้โพสต์บน X ว่า “คำตัดสินนี้มันบ้าสิ้นดี! เราจะหยุดการฉ้อโกงและการใช้เงินภาษีของประชาชนไปโดยเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร โดยไม่ดูว่าเงินนั้นถูกใช้ไปอย่างไร มันเป็นไปไม่ได้เลย! จะต้องมีบางอย่างที่น่ารังเกียจอย่างยิ่งมาปกป้องพวกหลอกลวง”
ในการตอบโต้คำพูดของมัสก์ อัยการสูงสุดของรัฐนิวเจอร์ซี แมทธิว แพลตกิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ฟ้องคดี ได้บอกกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ทางอีเมลว่า “สิ่งที่น่ารังเกียจก็คือมหาเศรษฐีเทคโนโลยีที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อพยายามขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคนอเมริกันหลายล้านคน”
อัยการสูงสุดจาก 19 รัฐโต้แย้งในคำร้องต่อศาลว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ล้มเหลวในการ “ปฏิบัติตามกฎหมายที่ประกาศใช้โดยรัฐสภาอย่างซื่อสัตย์” โดยให้มัสก์และทีมงานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงการคลังและข้อมูลละเอียดอ่อนของผู้เสียภาษีที่จัดเก็บหรือประมวลผลในระบบได้อย่างไม่มีใครทัดเทียม
หลังจากมีคำสั่งดังกล่าว มัสก์ได้แชร์โพสต์จากผู้ติดตามบน X ซึ่งแนะนำว่า DOGE ควรขัดขืนคำสั่งของศาล
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ทนายความผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล โพสต์ข้อความใน X ว่าในความเห็นของเขา “หากผู้พิพากษาพยายามบอกนายพลว่าควรดำเนินการทางทหารอย่างไร นั่นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากผู้พิพากษาพยายามสั่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมว่าจะใช้ดุลพินิจในฐานะอัยการผู้ฟ้องคดีอย่างไร นั่นก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน ผู้พิพากษาไม่มีอำนาจควบคุมอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายของฝ่ายบริหาร”
แพลตกิน อัยการสูงสุดของรัฐนิวเจอร์ซี กล่าวผ่านแถลงการณ์ทางอีเมลว่า “เราคาดหวังอย่างยิ่งว่าจำเลยจะปฏิบัติตามคำสั่งที่ศาลออกโดยคำนึงถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงที่เป็นปัญหาและความเสี่ยงมหาศาลที่การกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหาการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัว ประเทศของเราสร้างขึ้นบนหลักนิติธรรม และเราตั้งใจที่จะใช้หลักนิติธรรมนี้ให้ถึงขีดสุดเพื่อปกป้องประชาชนของเรา”
นักวิชาการกฎหมายโต้มัสก์และรองประธานาธิบดี
ด้านนักวิชาการด้านกฎหมายยืนยันว่า ในอดีต ฝ่ายตุลาการสามารถยับยั้งฝ่ายบริหารไม่ให้ละเมิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ได้
จอยซ์ ไวท์ แวนซ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอลาบามา และนักวิเคราะห์กฎหมายของเอ็นบีซีนิวส์ เขียนในอีเมลเมื่อวันอาทิตย์ว่า “รัฐธรรมนูญและประเพณีหลักนิติธรรมของเราถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้ศาลมีอำนาจพิจารณาขอบเขตอำนาจที่ฝ่ายบริหาร (ประธานาธิบดี) มีอยู่ เมื่อการกระทำของเขาถูกท้าทาย นั่นคือเหตุผลที่เราได้เห็นอัยการสูงสุดของรัฐจำนวนหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อท้าทายว่าทรัมป์มีอำนาจทางกฎหมายในการดำเนินการต่างๆ เช่น การยกเลิกสัญชาติโดยกำเนิด ระงับการใช้จ่ายที่รัฐสภาอนุมัติ และส่ง DOGE ไปยังหน่วยงานของรัฐบาลกลางหรือไม่”
เธอตั้งข้อสังเกตว่า “มีบรรทัดฐานมาหลายศตวรรษในการสร้างบทบาทของศาลในการตรวจสอบการใช้อำนาจเกินขอบเขตของฝ่ายบริหาร” รวมถึงกรณีเช่น Youngstown Sheet & Tubing Company v. Sawyer ซึ่งศาลฎีกาของสหรัฐ ปฏิเสธไม่ให้ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมนเข้าควบคุมโรงงานเหล็กของสหรัฐในช่วงสงครามเกาหลี
มาริน เค. เลวี ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากวิทยาลัยกฎหมาย Duke Law School กล่าวกับซีเอ็นบีซี ทางอีเมลเมื่อวันอาทิตย์ว่า “อัยการสูงสุดของรัฐและผู้พิพากษาในคดีนี้ต่างก็ปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างดี สิ่งที่เราเห็นคือระบบตุลาการทำงานอย่างที่ควรจะเป็น”







