นักท่องเที่ยวเมินนครวัดแห่เข้ากาสิโน

นักท่องเที่ยวเมินนครวัดแห่เข้ากาสิโน

นักเดินทางต่างชาติเข้ามากัมพูชาเพิ่มขึ้นในปี 2024 แต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวสงสัยว่าพวกเขาไปไหนกันหมด ถ้าไม่ไปนครวัดแหล่งท่องเที่ยวระดับซิกเนเจอร์ของประเทศ

เว็บไซต์นิกเคอิเอเชียรายงาน กัมพูชากำลังอยู่ในฤดูท่องเที่ยว นักเดินทางจำนวนมากกำลังกลับมา แต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกล่าวว่า ธุรกิจยังไม่ฟื้นตัวเมื่อดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่กลับมาเที่ยวที่เดิมที่เคยนิยมในปี 2019 โดยเฉพาะที่ จ.เสียมเรียบ ที่ตั้งของอุทยานประวัติศาสตร์นครวัด มรดกโลกของยูเนสโก

ชัย สิวลิน ประธานสมาคมบริษัทนำเที่ยวกัมพูชากล่าวว่า แม้ภาคส่วนนี้กำลังฟื้นตัวหลังจากโควิดระบาด นักท่องเที่ยวไม่ได้ใช้ธุรกิจบริการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวมากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กบางแห่งต้องปิดตัวลง คนงานเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น

“รายได้การท่องเที่ยวลดลงส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ กระทบไปถึงภาคส่วนอื่นๆ ด้วย” ชัยกล่าว

ในความเป็นจริง ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ากัมพูชาในปี 2024 น่าจะต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดเล็กน้อย

ภายในสิ้นเดือน ต.ค. ตัวเลขชาวต่างชาติรวมทะลุ 5.3 ล้านคน หรือราว 51% ของทั้งปี 2019 เปรียบเทียบกับเวียดนาม 10 เดือนแรกของปี 2024 การเดินทางมาเยือนของชาวต่างชาติฟื้นตัวมาอยู่ที่ 78% ของปี 2019

แต่ถ้าพิจารณาตัวเลขให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจะเห็นประเภทนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกัมพูชาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากช่วงก่อนโควิด

คนไทยมาเที่ยวพุ่งขึ้นมากนับตั้งแต่โควิดผ่อนคลาย เพิ่มขึ้น 430% จากปี 2019 และส่อเค้าพุ่งขึ้นเป็นเกือบหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2024 เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้คือคนไทยชอบการพนัน

“ประเทศไทยเป็นตลาดการพนันใหญ่มหาศาล (สำหรับกัมพูชา) กาสิโนราว 30-40 แห่งก็เลยไปตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดนไทย" เบน ลี ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมพนันกล่าว

นักท่องเที่ยวจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และลาวก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เป็นไปได้ว่า “นาคา คอร์ปอเรชันส์” ในกรุงพนมเปญ กาสิโนใหญ่ที่จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอาจเป็นตัวดึงดูด

อย่างไรก็ตาม ความเสียหายใหญ่สุดต่อการท่องเที่ยวเป็นผลจากนักท่องเที่ยวจีนไม่มา ลดลงจาก 1.86 ล้านคนในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2019 เหลือเพียง 607,542 คน ในช่วงเดียวกันของปี 2024

สิวลินกล่าวว่า นี่เป็นความเสียหายใหญ่หลวง โดยเฉพาะเมื่อภาคธุรกิจและรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับจีนตอนที่ภาคส่วนนี้ได้รับความนิยมอย่างมากช่วงปลายทศวรรษ 2010

“ธุรกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนอย่างหนักเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวง และรายต้องปรับตัวหรือปิดกิจการ” สิวลินย้ำ 

ในปี 2019 ชาวจีนซื้อตั๋วชมนครวัดมากที่สุด 39.6% หรือ873,393 ใบ จากทั้งหมด 2.2 ล้านใบ ในปี 2024 จีนยังคงเป็นผู้ซื้อใหญ่สุดอันดับสาม แต่ซื้อเพียง 8.08% เท่านั้นจากที่ขายได้ 1.02 ล้านใบ

ผู้ซื้อตั๋วเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์นครวัดรายใหญ่อื่นๆ ช่วง 11 เดือนแรกของปี 2021 เป็นชาวอเมริกัน สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ทั้งหมดสัดส่วนลดลงเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าจำแนกตามประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวที่มากัมพูชามากที่สุดกลับไม่ใช่กลุ่มที่ซื้อตั๋วเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์นครวัด ข้อมูลจากอังกอร์เอ็นเตอร์ไพรส์ รัฐวิสาหกิจผู้ดำเนินการนครวัด พบว่า จากยอดขายตั๋วรวมในปี คนไทยซื้อ 2.17% เวียดนาม 3.22% และลาว 0.15%

ยิน โสริยา ที่ปรึกษาและผู้บรรยายอาวุโสว่าด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยว ธุรกิจ และชุมชน มหาวิทยาลัยหลวงแห่งพนมเปญ กล่าวว่า การท่องเที่ยวทั่วโลกยังไม่กลับคืนสู่ยุคก่อนโควิด กัมพูชาก็กำลังประสบเช่นเดียวกัน

“หลังโควิด ผู้คนมีแนวโน้มเดินทางใกล้ๆ หรือไปประเทศเพื่อนบ้าน เงิน สุขภาพ และความปลอดภัย ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องเดินทางไกล” โสริยากล่าวและว่า มิจฉาชีพออนไลน์ทำลายชื่อเสียงของกัมพูชาในหมู่นักท่องเที่ยวจีน

“การพนันและมิจฉาชีพออนไลน์เลวร้ายสำหรับกัมพูชา เราเคยมีถูกกล่าวขานในด้านไม่ดีจากเขมรแดงในอดีต ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกำจัดภาพลักษณ์แย่ๆ นั้นได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่า การพนันออนไลน์ มิจฉาชีพ และ (ชื่อเสียง) เมืองบาปทำให้นักท่องเที่ยวขยาดกัมพูชา” โสริยากล่าวต่อ

ข้อมูลจากไชนาเทรดดิงเดสก์ บริษัทการตลาดจีน ชี้ว่า นักเดินทางขาออกชาวจีนฟื้นตัวต่อเนื่่องในปี 2024 แม้เศรษฐกิจในประเทศซบเซา

ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ย. ชาวจีนมาไทย เวียดนาม และสิงคโปร์กว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ไปกัมพูชาเพิ่มขึ้นเพียง 48% เท่านั้น

หลายคนในกลุ่มนี้เป็นนักธุรกิจ และการลงทุนของจีนในกัมพูชาลดลงอาจส่งผลต่อจำนวนนักเดินทาง ตามรายงานของรอยเตอร์ส จีนไม่อนุมัติเงินกู้ให้กัมพูชาในปี 2024 ซึ่งจีนเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่สุดคิดเป็นกว่าหนึ่งในสามของหนี้กัมพูชา 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักเดินทางที่เดินทางกับเครื่องบินเข้ามาน้อยลงในปี 2024 แต่เข้ามาทางบกมากขึ้น คิดเป็น 63.3% เทียบกับปี 2019 สัดส่วนอยู่ที่ 25% เศษๆ

แม้เสียมเรียบเปิดสนามบินใหม่ในปี 2023 จำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่กลับคืนสู่ระดับก่อนโควิด มีนักเดินทางเพียง 8.7% ที่ใช้สนามบินเสียมเรียบช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2024 เทียบกับ 26.5% ในช่วงเดียวกันของปี 2019

สิน จันสิริวุทธา โฆษกสำนักเลขาธิการการบินพลเรือน ยอมรับตัวเลขน้อย และว่าการย้ายและขยายสนามบินเสียมเรียบเป็นการลงทุนในการท่องเที่ยวอนาคต รัฐบาลกำลังทำข้อตกลงเชื่อมเสียมเรียบกับจีน, เกาหลีใต้ และตะวันออกกลาง ทั้งยังมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปสู่ปลายทางใหม่ๆ อย่างคาซัคสถานและออสเตรเลียแล้วด้วย

แม้ในแต่ละสัปดาห์อาคารผู้โดยสารสนามบินเสียมเรียบยังรองรับเครื่องบินไม่กี่เที่ยวจากคุนหมิงเมืองเดียวเท่านั้น จันสิริวุทธากล่าวว่า เร็วๆ นี้จะมีเที่ยวบินจีนมาเพิ่ม หลังรัฐบาลลดค่าธรรมเนียมสายการบินเพื่อกระตุ้นการเชื่อมต่อ

“รัฐบาลพยายามอย่างดีที่สุดในการอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร แต่ในมุมของภาคเอกชนพวกเขาจำเป็นต้องส่งเสริมและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นต้องแข็งขันกันทั้งสองฝ่ายเพื่อดึงนักท่องเที่ยว” โฆษกสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนกล่าว

  •  เร่งส่งเสริมแบรนด์กัมพูชา

ด้านถ่วนเหวียน กรรมการผู้จัดการดีเอ็มซี แม่โขง อิมเมจ บริษัทท่องเที่ยวระดับภูมิภาค กล่าวว่า กัมพูชามีศักยภาพมากมายในฐานะแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเดินทางร่วมอีเวนท์หรือเกี่ยวข้องกับงาน เนื่องจากการท่องเที่ยวกัมพูชายังคงตามหลังเวียดนามอยู่บ้าง เหวียนแนะนำให้กัมพูชามองภาพรวมขับเคลื่อนความต้องการเที่ยวบินขาออกเพื่อกระตุ้นให้สายการบินใหญ่ส่งเที่ยวบินโดยสารขนาดใหญ่ขึ้นและมาถี่ขึ้น

“การทำแบบนี้จะหนุนให้สายการบินเปิดเที่ยวบินหลักมากัมพูชา ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาที่เราง่ายขึ้น” เหวียนกล่าว

นิกเคอิเอเชียสอบถามไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชายังไม่ได้คำตอบ แต่โฮต ฮัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง พบกับทูตต่างชาติในกัมพูชาหลายครั้งและพาทูตลงพื้นที่ท่องเที่ยวด้วย

สำหรับโสริยา ซึ่งเป็นนักวิจัยในมหาวิทยาลัย มองว่าทุกภาคส่วนจำเป็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งเสริมสิ่งที่กัมพูชามี

“สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำก็คือส่งเสริมสิ่งที่เรามีต่อนักท่องเที่ยว ต้องสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ของเรา นั่นคือกัมพูชาที่ดี อบอุ่น และปลอดภัย”

ลอง โสคอย ประธานสมาคมรถสามล้อถีบกัมพูชา กล่าวว่า การโปรโมตให้ดีขึ้นเป็นหนทางเดียวที่ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวในกัมพูชาจะอยู่รอดได้ ปี 2024 คนขี่สามล้อถีบโบราณมีงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ เพราะจับมือกับบริษัททัวร์ แต่การนั่งสามล้อเที่ยวมีเพียงนักท่องเที่ยวชาวยุโรปและสหรัฐจำนวนไม่มากเท่านั้นที่นิยม ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีเลย

“ฉันคิดว่าถ้าเราอยากได้ลูกค้ามากขึ้น ก็จำเป็นต้องพึ่งพารัฐบาลหรือกระทรวงการท่องเที่ยวให้มากขึ้น”

สมาชิกสมาคมส่วนใหญ่มาจากตางจังหวัด เดินทางมากรุงพนมเปญในช่วงไฮซีซัน ช่วงนักท่องเที่ยวหนาแน่นระหว่างเดือน พ.ย.-ม.ค. ทำรายได้ 200-300 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่พวกเขายังซื้อรถเองไม่ได้ จำเป็นต้องอาศัยการสนับสนุนมากขึ้นทั้งด้านการเงินและการประชาสัมพันธ์จากรัฐบาลและภาคเอกชน

“พวกเขาไม่มีรถ มีแค่แรงงาน”ประธานสมาคมรถสามล้อถีบกัมพูชากล่าว