'เวียดนาม' ตั้งเป้าอีก 6 ปี เดินเครื่อง 'โรงไฟฟ้านิวเคลียร์'

'ฟื้นโปรเจกต์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นินห์ถ่วน' เวียดนามตั้งเป้าเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ครั้งแรกภายในปี 2031-2035 อุดช่องโหว่ความมั่นคงทางพลังงาน
บลูมเบิร์กรายงานว่า เวียดนามได้อนุมัติ "แผนพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์" อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีเป้าหมายเริ่มเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้ภายในทศวรรษ 2030 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติที่ทะเยอทะยานเพื่อยกระดับความมั่นคงด้านพลังงาน และบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ท้าทายในอนาคต
ข้อมูลจากเว็บไซต์หน่วยงานรัฐบาลเปิดเผยว่า เวียดนามได้เปิดตัวกรอบงานกำกับดูแล และวางแผนที่จะจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพยากรบุคคล และการวิจัยที่จำเป็นในการพัฒนาพลังงานปรมาณูภายในปี 2030
กระทรวงพาณิชย์ของเวียดนามเสนอให้มีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างน้อยหนึ่งแห่ง ที่เริ่มดำเนินการได้ในระหว่างปี 2031 - 2035 ตามร่างแก้ไขฉบับปรับปรุงใหม่ของแผนพัฒนาพลังงานฉบับที่ 8 (PDP8) ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์เมื่อสัปดาห์นี้เพื่อเปิดรับฟังความเห็น และจะขอรับการอนุมัติภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้
ร่างแก้ไขฯ ได้ระบุถึงสถานการณ์การพัฒนาพลังงานสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "นินห์ถ่วน 1" (Ninh Thuan I) ซึ่งมีเครื่องปฏิกรณ์ 2 เครื่อง โดยมีกำลังการผลิตเครื่องละ 1,200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเดินเครื่องได้ในระหว่างปี 2031 - 2035 ในขณะที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "นินห์ถ่วน 2" ซึ่งมีเครื่องปฏิกรณ์ 2 เครื่องเช่นกัน คาดว่าจะเดินเครื่องได้ในปี 2036 - 2040 เป็นอย่างช้า
รัฐบาลเวียดนามระบุในแถลงการณ์ว่า EVN ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคของรัฐ และ PetroVietnam ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมัน และก๊าซ ได้รับมอบหมายให้เป็นนักลงทุนสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นินห์ถ่วนทั้งสองแห่งในเวียดนาม ซึ่งตั้งในจังหวัดชื่อเดียวกันคือ จ.นินห์ถ่วน ทางตอนกลางของประเทศ โดยโครงการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2031
แม้ว่าเวียดนามจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย ซึ่งพลังงานนิวเคลียร์อาจเป็นช่องทางในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน แต่เวียดนามก็จะมีการเจรจากับพันธมิตรประเทศต่างๆ เช่นกันในเดือนนี้ เพื่อประเมินทางเลือกต่างๆ มากขึ้น
ทั้งนี้ เวียดนามยืนยันการฟื้นโปรเจกต์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นินห์ถ่วนอีกครั้งในเดือนพ.ย.2024 โดยเป็นโครงการที่เวียดนามเสนอมานับสิบปีแล้ว ก่อนที่จะถูกระงับไปในปี 2016 เนื่องจากต้นทุนการก่อสร้างที่สูง และความกังวลด้านความปลอดภัย โดยเดิมทีนั้นมีแผนที่จะก่อสร้างร่วมกับพันธมิตรจากรัสเซีย และญี่ปุ่น
เวียดนามนับเป็นประเทศล่าสุดที่มองไปยังพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งให้ไฟฟ้าปลอดคาร์บอนตลอด 24 ชั่วโมง และช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลนำเข้า อย่างไรก็ตาม จากตัวอย่างในบางประเทศก่อนหน้านี้ บริษัทสาธารณูปโภคต่างๆ ตั้งแต่ฝรั่งเศสไปจนถึงสหรัฐยังคงต้องดิ้นรนเพื่อสร้างเครื่องปฏิกรณ์ให้เสร็จทันเวลา และตามงบประมาณ และความทะเยอทะยานของเวียดนามอาจถูกทดสอบในเรื่องนี้เช่นกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์