‘ลีกาชิง’ เสี่ยงเจ็บหนัก! ปานามาถก ‘ยกเลิกสัญญา’ กับท่าเรือฮ่องกง

‘ปานามา’ กำลังถูกสหรัฐกดดันให้ยกเลิกสัญญากับบริษัทท่าเรือฮ่องกง เพื่อรักษาไมตรีกับอเมริกา จนมหาเศรษฐีลีกาชิง ซึ่งเป็นเจ้าของท่าอาจเสี่ยงสูญเสียรายได้มหาศาล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ด้วยแรงกดดันทางการเมืองจากสหรัฐ “ปานามา” จึงกำลังพิจารณา “ยกเลิกสัญญา” กับบริษัทท่าเรือที่มีฐานอยู่ในฮ่องกง ซึ่งอาจเป็นการยอมอ่อนข้อ เพื่อลดแรงกดดันจากประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ต้องการตอบโต้บทบาทของจีนบริเวณเส้นทางน้ำสำคัญแห่งนี้ โดย “Hutchison Ports PPC” ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ CK Hutchison Holdings กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของมหาเศรษฐีลีกาชิง ตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจถูกยกเลิกสัญญา
แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ และรัฐบาลจะดำเนินการโดยคำนึงถึงการหลีกเลี่ยงคดีความ และปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเหมาะสม
หากการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง จะถือเป็น “ของขวัญชิ้นใหญ่” สำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยระบุว่า จีนมีอิทธิพลเหนือคลองปานามามากเกินไป และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ในการเข้าควบคุมด้วยกำลัง ซึ่ง Hutchison Ports เป็นผู้ดำเนินการ 2 ใน 5 ท่าเรือที่อยู่ติดกับคลองปานามา โดยตั้งอยู่ฝั่งละหนึ่งแห่ง ขณะเดียวกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ค่อย ๆ ลดทอนความเป็นอิสระของฮ่องกงลงอย่างต่อเนื่อง
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวกับเจ้าหน้าที่ปานามาระหว่างการเยือนเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะต้องดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อลดอิทธิพลที่เขาเรียกว่า “ไม่อาจยอมรับได้” ของจีนต่อคลองที่สร้างโดยสหรัฐ ซึ่งได้ถูกมอบให้แก่ปานามาในปี 1999 ตามสนธิสัญญาที่ลงนามโดยประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ เมื่อสองทศวรรษก่อนหน้านี้
สำหรับ Hutchison ของมหาเศรษฐีลีกาชิง ได้ดำเนินการท่าเรือที่บัลโบอาและคริสโตบัลในปานามา ภายใต้สัญญาเช่าที่ลงนามครั้งแรกในปี 1997 และในปี 2021 ได้ขยายอายุออกไปจนถึงปี 2047
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทนายความสองคนได้ยื่นฟ้องต่อสัญญาของ Hutchison โดยอ้างว่าสัญญาดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญของประเทศ หนึ่งในทนายความอย่างนอร์แมน คาสโตร กล่าวว่า สัญญาเช่าดังกล่าวมีการลดหย่อนภาษีที่มากเกินไป และมอบที่ดินขนาดใหญ่ให้กับบริษัทท่าเรือ ซึ่งละเมิดรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ผลประโยชน์สาธารณะต้องได้รับการพิจารณาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว
จากการข่มขู่ของทรัมป์ที่จะเข้าควบคุมเส้นทางน้ำดังกล่าว ได้กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ปานามาส่งทีมตรวจสอบไปยัง Panama Ports Co. ของ CK Hutchison เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าใช้ทรัพยากรสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใสหรือไม่
ด้าน Hutchison ชี้แจงว่า มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานในประเทศ และยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการตรวจสอบดังกล่าว โดยการเติบโตส่วนใหญ่ของธุรกิจท่าเรือ CK Hutchison ขับเคลื่อนจากการเพิ่มขึ้นของการขนถ่ายสินค้าที่ประเทศในอเมริกากลาง ซึ่งมีท่าเรืออีก 9 แห่งในเม็กซิโก และบาฮามาส
ไม่เพียงเท่านั้น มากกว่า 1 ใน 5 ของกำไรของ CK Hutchison มาจากภูมิภาคต่างๆ รวมถึงอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และจีนที่เพิ่มสูงขึ้น ธุรกิจส่วนใหญ่ของกลุ่มในภูมิภาคเหล่านี้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นภาคส่วนที่อาจได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบรัฐบาล
ก่อนหน้านั้น ในปี 2020 ลีกาชิงได้สัมผัสถึงแรงถูกกดดันระหว่างสองมหาอำนาจ เมื่อไมค์ ปอมเปโอ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของทรัมป์สมัยแรก เตือนอิสราเอลเกี่ยวกับข้อเสนอของบริษัทในเครือ CK Hutchison ที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานในอิสราเอล โดยอ้างถึงความเชื่อมโยงที่ถูกกล่าวหากับพรรคคอมมิวนิสต์จีน จนทำให้บริษัทเสียการประมูลนั้นไป
ด้านรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของทรัมป์เคยกล่าวว่า ปักกิ่งอาจใช้ท่าเรือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการปฏิบัติการทางทหารในกรณีที่เกิดความขัดแย้ง
ทั้งนี้ ประมาณ 75% ของสินค้าที่ขนส่งผ่านเส้นคลองปานามาไปยังสหรัฐ โดยคลองปานามามีรายได้เกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2024 หรือประมาณ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของปานามา
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์