สื่อนอกชี้ 'ไทย' จะซื้อ 'สินค้าเกษตร-อีเทน' สหรัฐเพิ่ม อาจคุย 'กลาโหม' ด้วย

รองเลขาธิการนายกฯ เผยสื่อนอก 'ไทย' จะซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่ม เบื้องต้นมี 'สินค้าเกษตร' และ 'อีเทนอย่างน้อย 1 ล้านตัน' เปรยอาจกระชับสัมพันธ์ด้านการทหารเพิ่ม รมว.พาณิชย์ จะบินไปเจรจาที่สหรัฐสัปดาห์นี้
นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันนี้ (4 ก.พ.68) ว่า ประเทศไทยเตรียมเพิ่มการนำเข้า "อีเทน" และ "สินค้าเกษตร" จากสหรัฐเพิ่มเติม เพื่อลดแรงกดดันเรื่องการขาดดุลการค้าของสหรัฐ และลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก ในขณะที่สหรัฐกำลังขู่ทำสงครามการค้ากับหลายประเทศ
รองเลขานายกฯ กล่าวว่า โรงงานอาหารสัตว์ของไทยจะนำเข้ากากถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ มากขึ้นเพื่อใช้เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์สำหรับวัว สัตว์ปีก และหมู แต่ไม่ได้ระบุปริมาณการนำเข้าเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ขอให้บริษัทปิโตรเคมีในไทย "เพิ่มปริมาณการซื้ออีเทนจากสหรัฐอย่างน้อย 1 ล้านตัน" โดยปัจจุบัน มูลค่าตลาดของอีเทน 1 ล้านตันอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,780 ล้านบาท)
"เรากำลังดำเนินการเชิงรุก และหวังว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในการเจรจากับสหรัฐได้" รองโฆษกฯ กล่าวพร้อมเสริมว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาความพยายามที่จะเสริมสร้าง "ความสัมพันธ์ด้านกลาโหม และความมั่นคง" กับสหรัฐด้วย
"มีแนวโน้มว่าจะมีการเจรจาเรื่องการขาดดุลการค้าจำนวนมากของสหรัฐ แต่พวกเขาก็ยังต้องการพันธมิตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย" นายพงศ์ศรัณย์ กล่าว
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของไทย และไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐประมาณ 3.54 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้วิพากษ์วิจารณ์หลายประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐ โดยเรียกเก็บภาษีทั้งจากประเทศคู่แข่ง และพันธมิตร
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจของไทยที่พึ่งพาการส่งออกอาจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาษีของสหรัฐ โดยไทยจะส่งนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจาหารือกับฝ่ายสหรัฐ และลดความตึงเครียดทางการค้า
ปัจจุบัน ประเทศผู้นำเข้าเอทานอลรายใหญ่ของสหรัฐคือ จีน อินเดีย แคนาดา และนอร์เวย์ โดยเอทานอลเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นหลัก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์