จีนไม่รอด! ภาษีสหรัฐมีผลแล้วเที่ยงวันนี้ ปักกิ่งตอบโต้ขึ้นภาษีกลับ 10%

จีนไม่รอด! ภาษีสหรัฐมีผลแล้วเที่ยงวันนี้ ปักกิ่งตอบโต้ขึ้นภาษีกลับ 10%

ผ่านเส้นตายแล้ว! การขึ้นภาษีของสหรัฐกับสินค้านำเข้าจาก 'จีน' เริ่มมีผลบังคับใช้หลังเวลา 12.01 น. วันอังคารนี้ ทรัมป์ไม่ผ่อนปรนให้ 30 วัน เหมือนแคนาดา-เม็กซิโก ด้าน 'จีนโต้กลับ' จ่อขึ้นภาษีสหรัฐ 10% กับสินค้าเกษตร เครื่องจักร และน้ำมัน

(มีอัปเดตเพิ่มเติม) ข้อบังคับการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้า 10% กับ "จีน" เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วเที่ยงวันนี้ หลังผ่านเส้นตายในเวลา 00.01 น. วันที่ 4 ก.พ. ตามเวลาในสหรัฐ หรือเที่ยงวัน 12.01 น. วันอังคารตามเวลาในไทย แม้ว่าหลายฝ่ายจะลุ้นว่าจีนอาจจะคุยกับสหรัฐได้สำเร็จเหมือนกับที่ "แคนาดา" และ "เม็กซิโก" ได้รับการผ่อนผันการขึ้นภาษีออกไป 30 วัน เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ตาม  

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในกรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ว่า การเจรจากับจีน "น่าจะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า" และในช่วงสุดสัปดาห์ "แต่หากเราไม่สามารถทำข้อตกลงกับจีนได้ ภาษีนำเข้าก็จะสูงมาก" ทรัมป์กล่าวเสริม 

ขณะที่แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน "อาจจะคุยกันทางโทรศัพท์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า" 

จีนขึ้นภาษีตอบโต้ 10-15% เริ่ม 10 ก.พ. นี้

รัฐบาลจีนได้ประกาศมาตรการตอบโต้สหรัฐกลับทันที ทั้งมาตรการทางภาษี 10-15% และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี ขณะที่ทั่วโลกจับตาการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่คาดว่าจะมีขึ้นตามมาภายในสัปดาห์นี้ 

กระทรวงการคลังของจีนแถลงเมื่อวันอังคารว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 15% กับถ่านหินและก๊าซแอลเอ็นจี และภาษี 10% กับสินค้าในกลุ่มน้ำมันดิบ เครื่องจักรการเกษตร และยานยนต์บางประเภท โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 ก.พ.นี้ 

นอกจากการตอบโต้ด้วยมาตรการทางภาษีแล้ว จีนยังดำเนินมาตรการตอบโต้ควบคู่กันอีกหลายด้าน อาทิ สำนักงานบริหารการกำกับดูแลตลาดของจีนได้ประกาศเปิดการสอบสวนบริษัท "กูเกิล อิงค์" (Google) ในข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด

แม้ว่ากูเกิลจะถอนธุรกิจอินเทอร์เน็ตและเสิร์ชเอ็นจิ้นออกจากจีนไปแล้วตั้งแต่ปี 2553 แต่บิ๊กเทคฯ สหรัฐรายนี้ก็ยังมีการดำเนินธุรกิจบางอย่างในจีน เช่น การโฆษณาบริษัทจีนบนแพลตฟอร์มของกูเกิลในต่างประเทศ 

ขณะที่กรมศุลกากรและกระทรวงพาณิชย์ของจีน ประกาศจะควบคุมการส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ "แร่หายากที่สำคัญบางชนิด" ซึ่งรวมถึงทังสเตน เทลลูเรียม รูทีเนียม โมลิบดีนัม และรูทีเนียม

ทางการจีนยังประกาศขึ้น "บัญชีดำ" บริษัทด้านไบโอเทคโนโลยี "อิลลูมินา" และบริษัท "PVH" ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังในสหรัฐอย่าง คาลวิน ไคลน์ และทอมมี ฮิลฟิเกอร์ ลงในบัญชีรายชื่อหน่วยงานที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยอ้างว่าทั้งสองบริษัทนี้มีการเลือกปฏิบัติกับบริษัทสัญชาติจีน โดยในกรณีของ PVH นั้นได้ถูกทางการจีนสอบสวนตั้งแต่ปีที่แล้วกรณีบอยคอตฝ้ายจากเขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์ ของจีน    

จับตา 'ทรัมป์' คุย 'สี จิ้นผิง'

อย่างไรก็ตาม หลุยส์ ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ มองว่า การประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ของจีนนั้น เป็นเพียง "การเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์" เท่านั้นในขณะนี้ เพราะเดิมทีจีนมีการกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากสหรัฐอยู่แล้ว และอัตราที่ประกาศไปจะเท่ากับว่าจีนขึ้นภาษีกับสหรัฐเพิ่มมาแค่เพียงเกือบ 2% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ลู่เตือนด้วยว่าสงครามการค้าครั้งที่สองระหว่างสหรัฐและจีนนั้นเป็นที่ชัดเจนว่า "ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น" และมองว่า "มีความเป็นไปได้สูงมากที่ทั้งสองประเทศจะประกาศขึ้นภาษีรอบต่อไป

ทั้งนี้ แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน "อาจจะคุยกันทางโทรศัพท์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า" 

การคุยกันโดยตรงระหว่างผู้นำของสองประเทศเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะเป็นการคุยกันครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองในวันที่ 20 ม.ค. 

วิษณุ วรธาน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาคประจำภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ของธนาคารมิซูโฮ กล่าวว่า "มิติทางภูมิเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หมายความว่าการแก้ไขปัญหาจะมีความยุ่งยากมากกว่ากรณีของเม็กซิโกและแคนาดามาก"
 

เลื่อนขึ้นภาษี 'แคนาดา-เม็กซิโก' 30 วัน

ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.พ. ก่อนที่มาตรการเรียกเก็บภาษี 25% กับเม็กซิโกและแคนาดาจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกออกไปอีก 1 เดือน หลังจากที่ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาว์ม ของเม็กซิโก ยินยอมที่จะส่งกำลังทหารจำนวน 10,000 นาย ไปประจำการตามแนวชายแดนตอนเหนือเพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐ โดยเฉพาะยาแก้ปวดเฟนทานิล

ทรัมป์ระบุว่าในช่วงเวลา 1 เดือนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและเม็กซิโกจะเจรจากันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขณะที่ผู้นำเม็กซิโกระบุผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า การสนทนาที่ดีกับผู้นำสหรัฐ โดยมีการเคารพต่อความสัมพันธ์และอธิปไตยของเม็กซิโก ทำให้สามารถบรรลุข้อตกลงหลายประการ

ทางด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา เปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐได้ตกลงที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า 25% จากแคนาดาเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน โดยเป็นการตอบสนองต่อข้อตกลงของแคนาดาที่จะจัดการไม่ให้มีการลักลอบนำสารเสพติดเฟนทานิลข้ามพรมแดนเข้าสู่สู่สหรัฐ และทรูโดยังระบุด้วยว่าการพูดคุยทางโทรศัพท์กับทรัมป์เป็นไปด้วยดี