‘ทรัมป์’ เดินหน้า ‘ปฏิรูปกองทัพ’ เลิกทหารข้ามเพศ เสริมแกร่งกลาโหม

‘ทรัมป์’ เดินหน้า ‘ปฏิรูปกองทัพ’ เลิกทหารข้ามเพศ เสริมแกร่งกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกโครงการความหลากหลาย ท้าทายทหารข้ามเพศ และเล็งสร้างไอรอนโดมเหมือนอิสราเอล หวังเสริมแกร่งความมั่นคงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารที่มุ่งเน้นการปฏิรูปกองทัพสหรัฐหลายฉบับ ยกเลิกโครงการความหลากหลาย ท้าทายทหารข้ามเพศ และหวังเสริมแกร่งความมั่นคงกลาโหมด้วยการสร้างไอรอนโดมเหมือนอิสราเอล

คำสั่งฉบับแรกที่ลงนามเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) เป็นคำสั่งยกเลิกโครงการความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม (DEI) ในกองทัพคำสั่งฉบับที่ 2 คือการเตรียมรับทหารมากกว่า 8,000 นายที่ถูกปลดประจำการเพราะปฏิเสธรับวัคซีนโควิด-19 กลับเข้าทำงานอีกครั้งคำสั่งฉบับที่ 3 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเกี่ยวกับทหารข้ามเพศ ซึ่งยังไม่ถือเป็นคำสั่งแบนทหารข้ามเพศในทันที และคำสั่งที่ 4 กำหนดให้พัฒนาไอรอนโดมอเมริกัน(American Iron Dome) คล้ายกับไอรอนโดมที่ใช้ในอิสราเอลในตะวันออกกลาง ซึ่งแต่ละคำสั่งมีรายละเอียดดังนี้

ยกเลิก DEI ในกองทัพ

คำสั่ง “ฟื้นฟูกองทัพอเมริกา” รวมถึงการแบนในสิ่งที่รัฐบาลมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ให้สิทธิพิเศษทางเชื้อชาติและทางเพศของหน่วยงานต่างๆในกองทัพ,กระทรวงกลาโหม หรือกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และระบบราชการที่เกี่ยวข้องกับ DEI ที่เหลืออยู่จะถูกกำจัดออกจาหน่วยงานเหล่านั้น

คำสั่งของทรัมป์ ระบุด้วยว่า โครงการเหล่านั้นเป็นอันตราย สร้างความเสื่อมเสีย และผิดศีลธรรมอย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าโครงการเฉพาะใดอีกบ้างที่จะได้จะรับผลกระทบจากคำสั่งนี้

ในระหว่างหาเสียงเมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว ทรัมป์กล่าวว่าจุดประสงค์ของกองทัพคือ “การชนะสงคราม ไม่ใช่การตื่นรู้” ขณะที่พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่า หน้าที่ของกองทัพคือ “การพลีชีพ ความพร้อม และการสู้รบ”

ทั้งนี้ โครงการ DEI มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนที่มีภูมิหลังแตกต่างกันในหลายระดับได้มีส่วนร่วมในการทำงานในภาคส่วนต่างๆ ซึ่งผู้สนับสนุนบอกว่า โครงการนี้ช่วยลดการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มต่าง ๆ เช่น ชนกลุ่มน้อย แต่นักวิจารณ์หลายคนมองว่าโครงการดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติเสียเอง

จัดการทหารข้ามเพศ

ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้กองทัพกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการรวมทหารข้ามเพศ และอัปเดตคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้

คำสั่งของปธน.เกี่ยวกับ “การให้ความสำคัญต่อความเป็นเลิศและความพร้อมทางทหาร” ระบุว่า

“การแสดง ‘อัตลักษณ์ทางเพศ’ ที่แตกต่างไปจากเพศเดิมของบุคคลใดบุคคลหนึ่งนั้น ไม่สามารถตอบสนองมาตรฐานอันเข้มงวดที่จำเป็นสำหรับการรับราชการทหารได้”

รัฐบาลทรัมป์อ้างว่า ข้าราชการทหารที่อยู่ระหว่างทำศัลยกรรมมักไม่สามารถตอบสนองตามความต้องการทางกายภาพของงานได้ และบั่นทอนความพร้อมของกองทัพ

ซู ฟูลตัน ทหารผ่านศึกและที่ปรึกษาอาวุโสของ “สปาร์ตา” ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนทหารข้ามเพศ กล่าวว่า

“ทหารข้ามเพศบางคนที่อยู่ระหว่างศัลยกรรม ใช้ระยะเวลาฟื้นฟูและค่าใช้จ่ายน้อยมาก และสามารถจัดแจงเวลาไม่ให้กระทบต่อการประจำการหรือความพร้อมปฏิบัติภารกิจได้”

และเสริมว่าความพร้อมและความสามารถทางกายภาพของทหารข้ามเพศไม่แตกต่างจากทหารคนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่ามีทหารข้ามเพศในกองทัพสหรัฐเท่าไร ขณะที่นักวิจัยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า อาจมีทหารข้ามเพศในกองทัพราว 9,000 - 15,000 คน

เมื่อปี 2560 “ปาล์มเซนเตอร์” องค์กรวิจัยอิสระคาดว่า การปลดทหารข้ามเพศราว 10,000 นาย อาจทำให้รัฐเสียค่าใช้จ่ายราว 960 ล้านดอลลาร์

เรียกทหารประจำการใหม่

คำสั่งที่ 3 มีผลให้บุคลากรของกองทัพสหรัฐ ที่เคยถูกปลดเพราะปฏิเสธรับวัคซีนโควิด-19 ในช่วงการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ กลับมาประจำการอีกครั้ง ซึ่งจะได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเต็มรูปแบบ และได้รับยศเดิมคืนมา

ระหว่างปี 2564-2566 มีทหารราว 8,000 นาย ถูกปลดประจำการเนื่องจากปฏิเสธรับวัคซีน และมีเพียง 43 นาย ที่ได้กลับมาทำงานก่อนที่ทรัมป์จะกลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งในการกล่าวสุนทรพจน์วันสาบานตน ทรัมป์บอกว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ถูกไล่ออกอย่างไม่ยุติธรรม

อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมระดับสูงเผยกับบีบีซีว่า การปฏิเสธรับวัคซีนของทหารเหล่านั้นเสมือนการทำลายกฎระเบียบและวินัย

เจ้าหน้าที่รายนี้มองว่า การกลับมาประจำการของทหารเหล่านั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล และอาจสร้างบรรทัดฐานสู่การปฏิเสธรับวัคซีนชนิดอื่นๆ อีก เช่น วัคซีนไข้เหลือง หรือไข้ทรพิษ

จ่อสร้างไอรอนโดม

คำสั่งฝ่ายบริหารให้สร้าง “ไอรอนโดม” ถือเป็นการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ผู้นำพรรครีพับลิกันให้ไว้ตอนหาเสียง และทรัมป์เคยกล่าวกับมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ผ่านบรอดแคสต์ในแพลตฟอร์ม X ด้วยว่า เขามีแผนสร้างไอรอนโดมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

ไอรอนโดม คือระบบป้องกันภัยทางอากาศในอิสราเอลที่สร้างขึ้นด้วยเงินทุนจากสหรัฐ เป็นระบบตรวจจับและสกัดกั้นขีปนาวุธพุ่งเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมได้ตั้งคำถามถึงความจำเป็นหรือความเป็นไปได้ในการสร้างระบบดังกล่าวในสหรัฐอยู่หลายครั้ง ซึ่งระบบนี้ที่ใช้ในอิสราเอลปัจจุบันสามารถป้องกันได้เฉพาะขีปนาวุธหรือจรวดพิสัยใกล้ความเร็วต่ำ และประเทศอิสราเอลมีขนาดเทียบเท่ารัฐนิวเจอร์ซีซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐขนาดเล็กของสหรัฐเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า การสร้างระบบที่คล้ายกันนี้ทั่วแผ่นดินสหรัฐต้องใช้งบประมาณมหาศาลและอาจไม่มีประสิทธิภาพด้วยซ้ำ เพราะประเทศขั้วตรงข้ามอย่างรัสเซียและจีนมีอาวุธที่ทันสมัย

ขณะที่นักสังเกตการณ์มองว่าสหรัฐมีโครงการป้องกันขีปนาวุธประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางภาคพื้นดิน และระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (THAAD)

 

อ้างอิง: BBC, Al Jazeera