‘ตลาดหุ้นอินเดีย’ ทรุดหนัก! ร่วงหนักสุดรอบ 7 เดือน ต่างชาติแห่ถอนทุนออก

‘ตลาดหุ้นอินเดีย’ สะดุด! นักลงทุนต่างชาติแห่ถอนทุนหนัก หลังเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ดัชนี Nifty 50 และ Sensex ร่วงหนักที่สุดในรอบ 7 เดือน แต่นักวิเคราะห์มองเป็นการปรับฐานตามธรรมชาติ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า “ตลาดหุ้นอินเดีย” ปรับตัวร่วงลงตั้งแต่เดือนกันยายน ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติถอนเงินออกจากตลาดหุ้นประเทศนี้ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศ แต่นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็น “การปรับฐานที่เหมาะสม”
สำหรับ ดัชนีหุ้นอินเดีย หลักของอย่าง Nifty 50 และ Sensex อยู่ที่ระดับ “ต่ำสุดในรอบกว่า 7 เดือน” โดยอยู่ในระดับการปรับฐานอย่างชัดเจน นับตั้งแต่ทำระดับสูงสุดในเดือนกันยายน โดยข้อมูลจากธนาคาร Goldman Sachs แสดงให้เห็นว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และยานยนต์ เป็นภาคที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด
“ฟองสบู่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่การยอมรับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้” เวณุโกปาล การ์เร หัวหน้าฝ่ายวิจัยอินเดียของ AB Bernstein กล่าว เขาให้เหตุผลว่าแนวโน้มที่ซบเซาเกิดจากการที่ผลประกอบการอ่อนแอ รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในไตรมาสที่สอง ของปีงบประมาณของอินเดีย
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอินเดีย (GDPอินเดีย) ขยายตัว 5.4% ในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนกันยายน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปรับลดประมาณการ การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม ลงเหลือ 6.4% ซึ่งเ ป็นระดับต่ำสุดในรอบสี่ปี
“หลังจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เศรษฐกิจของอินเดียได้เข้าสู่ช่วงที่อ่อนตัวลง ซึ่งจะยังคงดำเนินต่อไปอีกสองสามไตรมาส” บริษัทข้อมูล และการวิเคราะห์ Capital Economics ระบุ
ด้าน ธนาคาร HSBC ได้ปรับลดอันดับความน่าสนใจของหุ้นอินเดียลงเป็น “เป็นกลาง” จาก “เพิ่มน้ำหนัก” เมื่อต้นเดือนนี้ ธนาคารยังได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของกำไร Nifty 50 สำหรับปีงบประมาณ 2568 ลงเหลือ 5% จาก 15%
ข้อมูลจาก National Securities Depository ของอินเดียยังชี้ให้เห็นว่า ชาวต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิของหุ้นอินเดียโดยเฉลี่ยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโตของประเทศชะลอตัว โดยกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่หุ้นอินเดียลดลง 99% เหลือเพียง 124 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
อีกทั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การไหลออกของเงินทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนักลงทุนต่างชาติถอนเงินออกจากหุ้นอินเดียประมาณ 8,300 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 28 มกราคม
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nifty 50 ให้ผลตอบแทนรายปีประมาณ 9% ในปี 2567 และประมาณ 19% ในปี 2566 ซึ่งเจมส์ ทอม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการลงทุนที่ Abrdn แสดงความเห็นว่า แม้จะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยในระยะใกล้ แต่เขามองว่าเป็น “โอกาสที่ดี” สำหรับนักลงทุนในอินเดียในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคไอทีภายในประเทศ และภาคธนาคารเอกชน
ในขณะที่นักเก็งกำไร อาจให้ความสำคัญกับความผันผวนรายไตรมาสของเศรษฐกิจ ไนเลช ชาห์ กรรมการผู้จัดการของ Kotak Mahindra Asset Management กล่าวว่า
“นักลงทุนระยะยาวไม่จำเป็นต้องกังวล นี่คือ ฝันร้ายของนักเก็งกำไร แต่เป็นความสุขของนักลงทุน”
อ้างอิง: cnbc
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







