หวังรวยในตะวันออกกลาง: ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ? | World Wide View

หวังรวยในตะวันออกกลาง: ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ? | World Wide View

แม้หญิงไทยและสาวประเภทสองหลายคนตั้งใจไปทำงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือโอมานจริง ๆ แต่กลับตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ และก็มีแรงงานไม่น้อยที่จงใจลักลอบเข้าไปทำงาน ทั้งที่รู้ว่าร้านนวดสปาเป็นการค้าประเวณีบังหน้า ขณะไทยประชาสัมพันธ์เตือนและให้ความช่วยเหลือมาตลอด

หลายปีที่ผ่านมา ประเทศในตะวันออกกลางอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และโอมาน เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของคนไทยที่หวังไปทำงานรายได้ดีสิ่งที่พบเห็นจนชินตาคือ ภาพของสาวไทยและสาวประเภทสองหลั่งไหลเดินทางไปทำงานในสองประเทศนี้ แต่ที่ควบคู่กันไปกับการเดินทางไปแสวงโชคที่ยูเออีกับโอมาน คือ ข่าวหญิงไทยถูกหลอกไปค้าประเวณี หญิงไทยตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์และเรียกร้องให้ทางการไทยยื่นมือให้ความช่วยเหลือ

สถานการณ์ลักษณะนี้ ดูเหมือนจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก วนเป็นลูป เข้าอีหรอบเดิม ที่พอจะมีเปลี่ยนแปลงบ้าง เป็นตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่เปลี่ยนจากคนเก่าเป็นคนใหม่ ไม่ซ้ำหน้า คนแล้วคนเล่า หมุนเวียนเปลี่ยนไป ไม่สิ้นสุด

คำถามที่หลาย ๆ คนมีเหมือน ๆ กัน น่าจะเป็นว่า แล้วรัฐบาลทำอะไรไปบ้างเพื่อยุติหรือแก้ไขปัญหานี้ คำตอบคือ รัฐบาลทำ และทำเยอะด้วย ทั้งประชาสัมพันธ์เชิงรุกในรูปแบบและช่องทางต่าง ๆ ทั้งเจรจาขอความร่วมมือจากประเทศปลายทางให้สกัดกั้นผู้ที่ตั้งใจจะลักลอบไปทำงาน เจรจาเพื่อเปิดช่องทางให้มีการนิรโทษกรรมให้สามารถเดินทางกลับไทยได้โดยไม่มีความผิด ไปจนถึงจัดหาที่พักและตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทางกลับ

แต่ความพยายามทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าว ไม่สามารถต้านทานกระแสหรือลดจำนวนผู้ที่ต้องการไปแสวงโชคในตะวันออกกลางได้

ว่ากันว่าในยูเออีมีคนไทยอาศัยประมาณ 12,000 คน ที่น่าตกใจคือ ในจำนวนนี้ มีประมาณ 7,000 คนที่ตั้งใจลักลอบไปค้าประเวณีโดยใช้การนวดสปาบังหน้า ส่วนในโอมานมีแรงงานไทยผิดกฎหมายกว่า 400 คน จากจำนวนคนไทยทั้งหมด 1,370 คน และเป็นภาพเดียวกับที่พบเห็นในยูเออี คือแรงงานผิดกฎหมายส่วนใหญ่เป็นสาวไทยและสาวประเภทสองที่ตั้งใจเดินทางไปทำงานโดยอาศัยการยกเว้นวีซ่า หรือใช้วีซ่าท่องเที่ยว เพื่อลักลอบขายบริการทางเพศ ผ่านการจัดหาของนายหน้า

การแก้ปัญหาให้ลุล่วง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จส่วนหนึ่งคือการลดจำนวนของผู้ที่จะเดินทางไปแสวงโชคในยูเออีหรือประเทศอื่นในตะวันออกกลางแบบผิดกฎหมายให้เหลือจำนวนน้อยที่สุด

บทความนี้ เขียนขึ้นเพื่อต้องการเล่าให้ฟังถึงสภาพปัญหาที่แม้เป็นปัญหาเฉพาะบุคคล แต่ผลกระทบกลับตกถึงบุคคลอื่นเป็นวงกว้าง รุนแรง และนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ที่จะกลายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติได้

ปัญหาเริ่มต้นจากการโฆษณาชวนเชื่อในสื่อสังคมออนไลน์อย่าง facebook และ tiktok เชิญชวนให้สาวไทยหรือสาวประเภทสองไปทำงานนวดสปาในยูเออีและโอมาน แต่เมื่อไปถึง กลายเป็นว่าสาว ๆ เหล่านี้ ไม่ได้ต้องการไปทำงานนวดสปา แต่เต็มใจที่จะขายบริการทางเพศด้วยการ “นวดแอบแฝง” แต่ก็มีจำนวนมาก ที่ตั้งใจไปทำงานนวดสปา แต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีและตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในที่สุด

ในทุกกรณี ผู้อยู่เบื้องหลังใช้ประโยชน์ที่ยูเออีอะลุ่มอล่วยในเรื่องการให้วีซ่าท่องเที่ยว หรือใช้ประโยชน์จากข้อกำหนดเรื่องการยกเว้นวีซ่าให้คนไทยของโอมาน โดยเมื่อไปถึง สาวไทยก็จะถูกส่งไปทำงานในสถานบริการนวดสปา ซึ่งเป็นกิจการที่เปิดขึ้นเพื่อบังหน้า แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นสถานที่ที่เปิดเพื่อให้บริการทางเพศ

ถามว่า สาวไทยรู้ไหมว่าจะเจอแบบนี้ คำตอบคือส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดรู้ แต่ก็มีอยู่บ้างที่ถูก หลอกไปจริง ๆ

แต่ที่น่ากลัวกว่านั้น คือ สภาพการจ้างงาน ว่ากันว่า มหาโหด สาว ๆ กลุ่มนี้ไม่แค่ถูกบังคับให้ขายบริการอย่างหนัก บางรายถูกโกงค่าแรงจนไม่สามารถชำระค่าดำเนินการของนายหน้า และเมื่อไม่สามารถทำรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็จะถูกขายต่อไปยังสถานบริการอื่นเป็นทอด ๆ และที่มีให้พบเห็นบ่อย ๆ ก็คือการทะเลาะวิวาทในกลุ่มสาวประเภทสองจะร้องเรียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากทางการได้ไหม คำตอบคือ “ได้ แต่เค้ามักไม่ทำกัน”เพราะสาว ๆ เหล่านี้เป็นผู้กระทำความผิดตั้งแต่เดินทางเข้าประเทศ โดยใช้วีซ่าผิดประเภท ลักลอบทำงาน การเข้าไปแสดงตัวเพื่อแจ้งความจึงเป็นความเสี่ยง เสี่ยงที่จะถูกจับกุมซะเอง 

อุปสรรคอีกประการหนึ่ง ก็คือ สาว ๆ กลุ่มนี้ ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ การขอรับความช่วยเหลือจากทางการจึงไม่ใช่ทางเลือกแรก ๆ ที่ถูกนึกถึง ดังนั้น สาว ๆ เหล่านี้ จึงต้องอดทนทำอย่างยอมรับสภาพ ไม่มีปาก ไม่มีเสียง มีบางรายที่ทนต่อภาวะกดดันไม่ได้ ก็หลบหนี เพื่อไปหาที่ทำงานแห่งใหม่ ทั้งในธุรกิจสีเทาของคนไทย พนันออนไลน์ และการลักลอบค้ายาเสพติดในสถานบันเทิง ซึ่งเป็นการถลำลึกเข้าสู่วังวนของอาชญากรรมข้ามชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในโอมานมีเสียงบ่นมาว่า ผู้กระทำความผิดหลายรายเป็นผู้กระทำความผิดซ้ำ หลบหนีการจับกุมโดยเปลี่ยนชื่อ-สกุล หรือทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้า

ปัญหามิได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมีปัญหาข้างเคียงอื่น ๆ อันเป็นผลพลอยได้จากปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ มีให้พบเห็นบ่อย ๆ เรื่อง หญิงไทยและสาวประเภทสองหลายคนที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีอย่างหนักจนกระทั่งเจ็บป่วยทำงานไม่ได้ ต้องซื้อยากินเองตามสภาพ ไม่กล้าไปรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงและกลัวถูกจับ ที่น่าหดหู่กว่านั้น คือ สาว ๆ หลายคนป่วยหนักจนต้องจบชีวิตลงที่นั่น ไม่มีโอกาสได้ใช้เงินตามที่วาดฝันไว้ มิหนำซ้ำ พ่อแม่พี่น้องที่ไทยต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อหาเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลและส่งศพกลับไทย

นอกจากนี้ยังมีปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ที่ซ้ำร้ายเมื่อเด็กเกิดมาแล้ว มารดาก็ไม่สามารถไปแจ้งเกิดเพื่อขอรับเอกสารประจำตัวและให้บุตรเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้ เนื่องจากไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส มิหนำซ้ำยังไม่สามารถหาตัวผู้ที่จะรับเป็นบิดาของบุตรได้

 

บทสรุป

ปัญหาคนไทยถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมายและตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แม้ภาครัฐได้ทำการประชาสัมพันธ์และรายงานข่าวเพื่อเตือนภัยผ่านสื่อต่าง ๆ แต่หลายคนยังคงหลงเชื่อในสื่อสังคมออนไลน์ที่ล่อลวงให้ไปทำงานในตะวันออกกลาง โดยอวดอ้างสวัสดิการดีเกินจริง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือมีการออกค่าใช้จ่ายให้ก่อนล่วงหน้า

บทสรุปของเรื่องนี้อยู่ที่ คนไทยที่สนใจไปทำงานในต่างประเทศ จะต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของงานที่ประกาศรับสมัคร และเลือกที่จะไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ในตะวันออกกลาง ได้รับค่าแรงและสวัสดิการที่เหมาะสม รวมถึงมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี