ส่งออก ’ญี่ปุ่น‘ เดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.8% ขยายตัว 3 เดือนติดก่อน ’ทรัมป์‘ ขึ้นภาษี

ส่งออก ’ญี่ปุ่น‘ เดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.8%
ขยายตัว 3 เดือนติดต่อกัน เร่งส่งออกสินค้าก่อน ’ทรัมป์‘ ขึ้นภาษีนำเข้า สรุปปีนี้ญี่ปุ่น ‘ขาดดุลการค้า ’ 5.3 ล้านล้านเยน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานตัวเลขการส่งออกของ “ญี่ปุ่น” เดือน ธ.ค.2567 เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.3% และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนก่อนหน้า
การส่งออกไปยังจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ลดลง 3% ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาลดลง 2.1%
ตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนธันวาคม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่บริษัทต่าง ๆ เร่งขนส่งสินค้าก่อนที่จะมีการบังคับใช้ภาษีศุลกากรที่อาจสูงขึ้นตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศไว้
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ส่งสัญญาณถึงแผนการที่จะใช้ภาษีศุลกากรกับสินค้าที่นำเข้าจากคู่ค้ารายสำคัญอย่างจีน แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งสร้างความกังวลว่า นโยบายการค้าของสหรัฐที่มีลักษณะกีดกันทางการค้ามากขึ้นอาจส่งผลให้การขนส่งสินค้าทั่วโลกชะลอตัวและหยุดชะงัก
ในขณะที่การนำเข้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.6% และเป็นการเพิ่มขึ้นจากการลดลง 3.8% ในเดือนพฤศจิกายน
ทำให้ญี่ปุ่นมีดุลการค้าเกินดุล 1.3 แสนล้านเยน หรือราว 836.80 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ซึ่งตรงกันข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการขาดดุล 53 พันล้านเยน
สำหรับทั้งปี 2567 ญี่ปุ่นมีการขาดดุลการค้า 5.3 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดดุลติดต่อกันเป็นปีที่สี่ แต่ลดลงจากปี 2566 ที่มีการขาดดุล 9.52 ล้านล้านเยน







