‘ปานามา’ เอาใจทรัมป์! ตรวจสอบเข้ม ‘บริษัทท่าเรือจีน’ มหาเศรษฐีลีกาชิงก็โดนด้วย

ความตึงเครียดในภูมิภาคอเมริกากลางทวีความรุนแรงขึ้น หลัง ‘ปานามา’ เปิดฉากตรวจสอบบริษัทท่าเรือข้ามชาติที่เชื่อมโยงกับจีน ขณะที่สหรัฐภายใต้ทรัมป์ ยืนกรานจะเข้าควบคุมคลองปานามา เส้นทางเดินเรือเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาล “ปานามา” ได้เริ่มต้นตรวจสอบบัญชีของ “บริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับจีน” ซึ่งเป็นผู้ควบคุมท่าเรือสองแห่งที่ตั้งอยู่ติดกับคลองปานามา ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ย้ำคำขู่ที่จะเข้าควบคุมเส้นทางน้ำดังกล่าว
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ม.ค.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งทีมตรวจสอบบัญชีไปยังสำนักงานบริษัท Panama Ports ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ CK Hutchison Holdings ที่ดูแลโดยมหาเศรษฐีลีกาชิงแห่งฮ่องกง
ตามที่ระบุในแถลงการณ์ ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีจะดำเนินการตรวจสอบอย่าง “ละเอียดถี่ถ้วน” เพื่อ รับประกันการใช้ทรัพยากรสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
ทั้งนี้ การตรวจสอบเกิดขึ้นในขณะที่ทรัมป์กล่าวหาปานามาว่า อนุญาตให้จีนเข้ามาแทรกแซงในคลองปานามา ทรัมป์ย้ำข้อกล่าวหาของเขาว่า จีนกำลังดำเนินการควบคุมเส้นทางน้ำนี้ และย้ำว่ารัฐบาลทรัมป์จะเข้ายึดคืน
แม้ว่าฮ่องกงมีพรมแดน สกุลเงิน และระบบกฎหมายเป็นของตนเอง แต่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์สำหรับบริษัทในฮ่องกงกำลังสูงขึ้น เนื่องจากนักการเมืองจากทุกฝ่ายในสหรัฐได้ลดความแตกต่างระหว่าง “ฮ่องกง” จาก “จีนแผ่นดินใหญ่”
สำหรับธุรกิจท่าเรือ CK Hutchison ของลีกาชิง สร้างกำไรประมาณ 15% ของรายได้รวมของกลุ่มบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 โดยการเติบโตส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการขนถ่ายสินค้าในอเมริกากลาง ซึ่งบริษัทมีท่าเรืออีก 9 แห่งในเม็กซิโกและบาฮามาสด้วย
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากทรัมป์เสนอการปรับโครงสร้างการค้าโลกใหม่ ซึ่งรวมถึงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงสุดถึง 25% กับเม็กซิโกและแคนาดา
ด้านรัฐบาลปานามาปฏิเสธว่า ไม่มีการมีอยู่ของจีนในคลองปานามา และย้ำว่า คลองปานามายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของปานามา
ขณะที่ Hutchison Ports PPC ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของกลุ่มบริษัท CK Hutchison Holdings ของลีแถลงว่า กำลังให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการตรวจสอบและรักษาความโปร่งใสตามระเบียบ
บริษัทของลีกาชิงซึ่งควบคุมท่าเรือสองแห่งที่ตั้งอยู่ติดกับคลองปานามาระบุว่า มีส่วนร่วมในการสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศมากกว่า 5,900 ล้านบัลโบอา (ราว 2 แสนล้านบาท) ตั้งแต่เข้ามาดำเนินการในปานามา และได้สร้างงานนับพันตำแหน่ง
อ้างอิง: bloomberg, bloomberg(2)