ผู้เชี่ยวชาญ UN จี้ไทยยุติส่งกลับ 48 อุยกูร์

ผู้เชี่ยวชาญ UN จี้ไทยยุติส่งกลับ 48 อุยกูร์

ผู้เชี่ยวชาญ UN ออกแถลงการณ์ รัฐบาลไทยต้องยุติแผนการส่งตัวชาวอุยกูร์ 48คนกลับไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยทันที เตือนมีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่จะถูกทรมานหรือถูกปฏิบัติหรือลงโทษอื่นๆที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีหากถูกส่งกลับ

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ  เผยแพร่แถลงการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ UN ระบุ 

“การปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ในประเทศจีนนั้นมีการเก็บข้อมูลจนเป็นที่ประจักษ์ เรากังวลว่าพวกเขามีความเสี่ยงที่จะถูกทำร้ายที่ไม่อาจเยียวยาได้ (irreparable harm) ซึ่งละเมิดข้อห้ามระหว่างประเทศของการผลักดันกลับ (refoulement) ไปเผชิญการทรมาน”

“หลักการห้ามผลักดันกลับห้ามมิให้มีการส่งตัวหรือเคลื่อนย้ายไม่ว่าโดยวิธีใดไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงอย่างแท้จริงต่อการทรมานหรือการปฏิบัติหรือลงโทษอื่นๆที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญย้ำพร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยจัดหาการดูแลทางการแพทย์ที่เพียงพอและครอบคลุมให้กับชาวอุยกูร์โดยเร็ว

ชาวอุยกูร์ 48คนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชาวอุยกูร์ราว350คนที่ถูกจับกุมในประเทศไทยเมื่อปี 2557 หลังจากที่ข้ามชายแดนประเทศไทยโดยผ่านช่องทางไม่ปกติเพื่อแสวงหาการคุ้มครองในประเทศไทย มีการกล่าวว่าพวกเขาถูกคุมขังโดยไม่สามารถติดต่อผู้ใดได้เป็นระยะเวลามากกว่าทศวรรษโดยไม่สามารถเข้าถึงทนายสมาชิกครอบครัวหรือตัวแทนของ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัย (UNHCR)

“เราเห็นว่าบุคคลเหล่านี้ไม่ควรถูกส่งกลับไปยังประเทศจีนพวกเขาควรได้รับการเข้าถึงกระบวนการลี้ภัยและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่นๆเช่นการสนับสนุนทางการแพทย์และและจิตสังคมในประเทศไทย”กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าว

“พวกเราได้รับข้อมูลว่า 23 จาก 48 คน มีปัญหาสุขภาพอย่างร้ายแรงทั้งเบาหวานโรคไตเรื้อรังอัมพาตช่วงล่างโรคผิวหนังโรคทางเดินอาหารและลำไส้และภาวะที่เกี่ยวกับหัวใจและปอด”กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าว“เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่พวกเขาจะได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็นและเหมาะสม” 

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญยังได้ย้ำต่อทางการไทยว่าบุคคลที่ปราศจากอิสรภาพต้องได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมและเคารพศักดิ์ศรีซึ่งผู้ถูกคุมขังที่ไม่มีความผิดทางอาญาต้องถูกคุมขังแยกออกต่างหากอยู่ในสภาพที่สมกับสถานะพวกเขาต้องสามารถเข้าถึงตัวแทนทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพและความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่เพียงพออีกทั้งการทบทวนสภาวะการปราศจากอิสรภาพโดยศาลอย่างทันท่วงทีการเยียวยาจากการละเมิดใดๆและความเป็นไปได้ที่จะติดต่อกับทนายที่เขาเลือกญาติและการเข้าเยี่ยมโดยองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีชาวอุยกูร์5คนเสียชีวิตในสถานที่คุมขังในประเทศไทยตลอดระยะเวลา11ปีที่ผ่านมาโดยสองคนจากจำนวนนี้เป็นเด็ก

“สภาพการคุมขังที่ไม่เหมาะสมรวมถึงการไม่สามาถเข้าถึงการดูแลทางการแพทย์ที่เพียงพอสามารถทำให้มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสในสถานที่คุมขังได้การเสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังก่อให้เกิดข้อสงสัยถึงการทำให้เสียชีวิตโดยอำเภอใจของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งจะสามารถโต้แย้งได้ด้วยการสอบสวนที่ถูกต้องตามมาตรฐานระหว่างประเทศเท่านั้น”

“เราเรียกร้องให้มีการสอบสวนที่มีประสิทธิภาพทันท่วงทีและมีการประเมินสถานการณ์แวดล้อมของการจับกุมและสภาวะการถูกคุมขังอย่างต่อเนื่องของบุคคลกลุ่มนี้”กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าว

“หากพบว่าพวกเขาถูกคุมขังโดยอำเภอใจหรือในสภาพที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศพวกเขาควรได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว”

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไทยให้ผู้ต้องกักเข้าถึงตัวแทนทางกฎหมายและองค์กรยูเอ็นต่างๆที่เกี่ยวข้องพวกเขาได้ส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทยและจะติดตามสถานการณ์ต่อไป

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีกล่าวในสัปดาห์ก่อนว่า ยังไม่มีแผนเนรเทศอุยกูร์กลับจีนในตอนนี้ ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่า รัฐบาลยังไม่มีคำสั่งให้เนรเทศ

นายบาบาร์ บาล็อก โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ทางการไทยรับรองกับ UNHCR ว่า จะไม่ส่งตัวชาวอุยกูร์ไปจีน

รอยเตอร์สสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยยังไม่ได้ให้คำตอบ

ส่วนมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวระหว่างการพิจารณารับรองการรับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาจะใช้ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างสหรัฐกับไทย ป้องกันไม่ให้ชาวอุยกูรณ์ถูกส่งตัวกลับ