คนรวย 1% กำลังยึดครอง ‘เศรษฐกิจโลก’ เศรษฐีระดับล้านล้านดอลลาร์เพิ่มอีก 5 คน

คนรวย 1% กำลังยึดครอง ‘เศรษฐกิจโลก’ ปี 67 ความมั่งคั่งเหล่าเศรษฐีพุ่งเป็น 15 ล้านล้านดอลลาร์ ถือครองทรัพย์สิน 45% ของโลก ในอีก 10 ปีข้างหน้ากำลังจะมีเศรษฐีระดับล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอีก 5 คน ‘ไบเดน’ เตือนกลุ่มผู้มีอำนาจกำลังก่อตัวในสหรัฐ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีอ้างถึงรายงาน "Takers Not Makers" ฉบับล่าสุดขององค์กรการกุศลอ็อกซ์แฟม (Oxfam)เปิดเผยว่า ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนขยายตัวมากขึ้นในปี 2567 โดยเฉพาะกลุ่มมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการสืบทอดมรดกและและเครือข่ายที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยสำคัญ
ความเหลื่อมล้ำที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมหาเศรษฐีทั่วโลกสามารถเพิ่มพูนความมั่งคั่งได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงหนึ่งปี มูลค่าสุทธิของมหาเศรษฐีทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นจาก 13 ล้านล้านดอลลาร์เป็น 15 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติการณ์
รายงานของธนาคารโลกเผยให้เห็นภาพที่น่าตกใจเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจทั่วโลก แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 30 ปี แต่จำนวนคนยากจนทั่วโลกกลับแทบจะไม่ลดลงเลย
ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าคนรวยที่สุด 1% ของโลกครอบครองทรัพย์สินเกือบครึ่งหนึ่งของโลก 45% ขณะที่อีกด้านหนึ่ง มีประชากรโลกเกือบครึ่ง 44% ที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยรายได้ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนที่ธนาคารโลกกำหนดไว้ที่ 6.85 ดอลลาร์ต่อวัน
‘คนรวย’ ควบคุมเศรษฐกิจโลก
ในขณะที่ความมั่งคั่งของคนที่รวยที่สุดในโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ Oxfam คาดว่าจะมีเศรษฐีระดับล้านล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 คนภายใน 10 ปี
อมิตาภ เบฮาร์ ผู้อำนวยการบริหารของ Oxfam International ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น โดยระบุว่ากลุ่มคนรวยเพียงหยิบมือเดียวกำลังควบคุมเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ความล้มเหลวในการหยุดยั้งมหาเศรษฐีกำลังก่อให้เกิดมหาเศรษฐีหลายล้านคนในไม่ช้านี้ ไม่เพียงแต่อัตราการสะสมความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีจะเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า แต่พลังอำนาจของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”
นอกจากนี้รายงานยังระบุถึง “ความมั่งคั่งที่ไม่สมควรได้รับ” โดยแสดงให้เห็นว่า 60% ของความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีในปัจจุบันมาจากมรดก การผูกขาด หรืออำนาจของ “เครือข่ายพวกพ้อง”
'ไบเดน’ เตือนกลุ่มผู้มีอำนาจกำลังก่อตัวในสหรัฐ
ในขณะที่รายงานของ Oxfam เปิดเผยท่ามกลางเหตุการณ์สำคัญ นั่นคือการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ และการประชุมสุดยอดผู้นำทางเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส สะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งที่กระจุกตัวอยู่ในมือของคนเพียงกลุ่มน้อย กับความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในระดับสากล
“อีลอน มัสก์” ผู้บริหารบริษัทเทสลาและมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับทรัมป์ กำลังก้าวไปสู่การเป็นบุคคลแรกของโลกที่มีทรัพย์สินสุทธิแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ตามการคาดการณ์ของ Informa Connect Academy ปัจจุบัน มัสก์มีมูลค่าสุทธิประมาณ 4.4 แสนล้านดอลลาร์
“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ออกมาเตือนว่า ระบอบการปกครองแบบทุนนิยมในกลุ่มที่มีความมั่งคั่ง อำนาจ และอิทธิพลอย่างมหาศาล กำลังก่อตัวขึ้นในอเมริกา
ไบเดนกล่าวในคำอำลาตำแหน่งว่า “ทุกคนสามารถหารายได้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องจ่ายเงินด้วย ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เดียวกัน จ่ายภาษีอย่างยุติธรรม”
Oxfam ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกดำเนินมาตรการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ โดยเสนอให้มีการจำกัดอัตราส่วนระหว่างรายได้ของคนรวยที่สุด 10% กับคนจนที่สุด 40% ของประชากรโลก นอกจากนี้ Oxfam ยังเรียกร้องให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อควบคุมพฤติกรรมของบริษัทข้ามชาติ และเพิ่มอัตราภาษีสำหรับคนรวย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น







