BOJ เตรียมถกปรับขึ้นดอกเบี้ยศุกร์ (24 ม.ค.) แม้ยังจับตาผลกระทบจากทรัมป์

ผู้ว่าฯ BOJ จ่อหารือปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันศุกร์นี้ ท่ามกลางความคาดหวังสูงจากนักเศรษฐศาสตร์กว่า 90% ชี้สภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจพร้อมสำหรับการปรับขึ้น แม้ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวของทรัมป์ในทำเนียบขาว 20 ม.ค. 2568
ท่ามกลางความคาดหวังที่สูงขึ้นว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ม.ค.) ว่า นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) จะประเมินความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค. 2568 ตราบเท่าที่ไม่มีความผันผวนในตลาดที่เกิดขึ้นหลังจากการเข้ารับตำแหน่งของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.
ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกรวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (FED) พยายามมองหาจังหวะในการลดความร้อนแรงของดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม อุเอดะและคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) กลับเดินในทิศทางที่แตกต่างคือพยายามดึงนโยบายการเงินของญี่ปุ่นเข้าสู่เส้นทางปกติ (Normalization)
หลังจากที่ประสบกับภาวะเงินเฟ้อต่ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซามาหลายทศวรรษ ปัจจุบันญี่ปุ่นดูเหมือนจะใกล้บรรลุ เป้าหมายเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ พร้อมการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ BOJ สามารถผลักดันต้นทุนการกู้ยืมขึ้นสู่ระดับที่ใกล้เคียงกับเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ได้
นักเศรษฐศาสตร์ประมาณ 90% ที่สำรวจโดยบลูมเบิร์กในเดือนนี้ระบุว่า สภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจเอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.25% โดยนักเศรษฐศาสตร์ประมาณ 3 ใน 4 ที่สำรวจ คาดว่า ธนาคารกลางจะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ด้าน ตลาด Overnight Swaps ในวันศุกร์แสดงให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค.
คณะกรรมการกนง. มองว่ามีโอกาสดีที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตราบใดที่ทรัมป์ไม่สร้างความประหลาดใจในแง่ลบมากเกินไป โดยแหล่งข่าววงในของบลูมเบิร์ก เผยว่าอาจมีการปรับประมาณการเงินเฟ้อขึ้นและความคาดหวังการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยที่นับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กว่า รายงานดังกล่าวยิ่งเพิ่มความคาดหวังของนักลงทุนว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ทั้งอุเอดะและ เรียวโซะ ฮิมิโนะ รองผู้ว่าฯ ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะพิจารณาถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นต้นทุนการกู้ยืมในการประชุมที่จะถึงนี้
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ท่าทีดังกล่าวของผู้บริหารระดับสูงของ BOJ เป็นการบอกเป็นนัยว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ค. พวกเขาได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ว่า การปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยครั้งนั้นทำไปโดยไม่ส่งสัญญาณใดๆ ให้กับตลาดก่อนจึงเป็นสาเหตุของ "การทรุดตัของตลาดหุ้นทั่วโลก"
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ค่าเงินเยน เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง โดยค่าเงินได้เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการแทรกแซงตลาดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนเงินเยนเมื่อปีที่แล้ว การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐและญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยหนุนค่าเงินให้แข็งค่ามากขึ้น
แล้วอะไรที่อาจหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอุเอดะในสัปดาห์นี้ได้?
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ความปั่นป่วนในตลาดที่เกิดจากทรัมป์ อาจทำให้ BOJ มีเหตุผลที่จะรอต่อไปอีกสักพัก ภาษีศุลกากรที่ครอบคลุมกว้างขวางเป็นหนึ่งในความกังวลหลักสำหรับคู่ค้าสำคัญทั้งหมดของสหรัฐ รวมถึงญี่ปุ่น โดยว่าที่ประธานาธิบดีมีแนวโน้มที่จะออกคำสั่งบริหารจำนวนมากในวันแรกของการบริหารสมัยที่สอง
อ้างอิง: Bloomberg