‘ญี่ปุ่น’ ส่งสัญญาณหากเกิด ‘สงครามจีน - ไต้หวัน’ : ภาคธุรกิจเตรียมตัวหนึ่ง

‘ญี่ปุ่น’ ส่งสัญญาณหากเกิด ‘สงครามจีน - ไต้หวัน’ : ภาคธุรกิจเตรียมตัวหนึ่ง

“ญี่ปุ่น“ เปิดรายงานผลสำรวจเร็วๆ นี้ ย้ำถึงบริษัทในประเทศ กังวลเพิ่มขึ้นต่อ สถานการณ์ตึงเครียดในบริเวณช่องแคบไต้หวันทวีความรุนแรง โดยบริษัทใหญ่ๆ เกือบครึ่งหนึ่ง พร้อมรับมือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงความเสี่ยงที่สำคัญทางธุรกิจ

KEY

POINTS

Key Pionts

  • รายงานสำรวจนี้ เน้นย้ำถึงความรู้สึกไม่แน่นอนในกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจชาวญี่ปุ่นในไต้หวัน เนื่องจากความตึงเครียดในภูมิภาครุนแรงสูงขึ้น
  • จีนและไต้หวันมีบทบาทสำคัญด้านห่วงโซ่อุปทานในญี่ปุ่น และยังเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าและบริการของญี่ปุ่น
  • สำหรับญี่ปุ่นแล้ว สถานการณ์ความขัดแย้งจีน-ไต้หวัน เป็นมากกว่าปัญหาระดับภูมิภาค เพราะเป็นสิ่งบรรจบกันระหว่างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผลประโยชน์ด้านความปลอดภัย และกลยุทธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ 

สำนักข่าวเกียวโดได้ทำการสำรวจรายงานฉบับนี้ เปิดเผยว่า บริษัทใหญ่ของญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งหนึ่ง กำลังเตรียมพร้อมอย่างแข็งขัน หากเกิดเหตุการณ์จีน ใช้กำลังทหารรุกรานไต้หวัน

ในรายงานผลสำรวจพบ  53% มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม เช่น ร่างคู่มือฉุกเฉิน การวางแผนอพยพ และเตรียมกักตุนเสบียงอาหาร

ขณะเดียวกัน 12% ยอมรับว่าจำเป็นต้องเตรียมตัว แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ก็ตาม

การสำรวจมีขึ้นระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนธันวาคม 2567 ครอบคลุมบริษัท 114 แห่ง ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงยักษ์ใหญ่ อย่างโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และบริษัทเอเอ็นเอโฮดิ้งส์

"สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันที่ทวีความตึงเครียดรุนแรงขึ้น กำลังเปลี่ยนแปลงผลประเมินความเสี่ยงของบริษัทชั้นนำญี่ปุ่น" ผลสำรวจย้ำ

ความสัมพันธ์ทางการค้าญี่ปุ่น - ไต้หวัน

การเตรียมการที่เร่งด่วนดังกล่าว เป็นผลจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวัน

จีนและไต้หวันมีบทบาทสำคัญด้านห่วงโซ่อุปทานในญี่ปุ่น และยังเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าและบริการของญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 3 ของไต้หวัน ขณะที่ไต้หวันเป็นผู้ค้าใหญ่เป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น ซึ่งการส่งสินค้าส่งออกไต้หวันไปยังญี่ปุ่น รวมถึงแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์หน่วยความจำ เครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ท โปรเซสเซอร์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก และอื่นๆ

ขณะเดียวกันญี่ปุ่นเป็นแหล่งลงทุนจากต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในไต้หวัน โดยเน้นที่อุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า เวชภัณฑ์ และการเงิน

คนไต้หวันเป็นกลุ่มนิยมสินค้าฟุ่มเฟื่อยจากญี่ปุ่นเป็นอันดับต้นๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจสองประเทศลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ตามรายงานของสำนักงานการค้าระหว่างประเทศ ปี 2565 ญี่ปุ่นและไต้หวันมีมูลค่าการค้าระหว่างการรวม 7.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 14.1% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงความไม่แน่นอนในภูมิภาค

การส่งออกของญี่ปุ่นไปยังไต้หวัน มีมูลค่ารวม 4.43 หมื่นล้าน ดอลล่าร์ หรือลดลง 18.8% ขณะที่การส่งออกไต้หวันไปยังญี่ปุ่น มีมูลค่า 3.14 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือลดลง 6.4%

ผลสำรวจชี้สถานการณ์ปัจจุบัน

รายงานสำรวจฉายภาพที่ชัดเจนว่า กลุ่มบริษัทและธุรกิจของญี่ปุ่น รับรู้ได้ถึงความเครียดระหว่างจีนและไต้หวันที่เพิ่มขึ้น ได้แก่

  • ผลกระทบทางธุรกิจ

บริษัทญี่ปุ่นแสดงความกังวลเป็นพิเศษ หากเกิดสงครามการค้าจีน-ไต้หวัน ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของญี่ปุ่นหยุดชะงัก โดย 54% ของบริษัทญี่ปุ่นระบุว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเขา อย่างมีนัยสำคัญหรือระดับปานกลางแล้ว

  • สิ่งกังวลอันดับต้นๆ

ในผลสำรวจพบว่า 53% ของบริษัทญี่ปุ่นกังวลว่าการจัดส่งทางทะเลและอากาศจะหยุดชะงัก ขณะที่ 48% กังวลเรื่องความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์

  • ความเป็นไปได้เกิดการรุกราน

ในความเห็นเรื่องการรุกรานที่อาจเกิดขึ้น มีความแตกต่างกันไป โดย 22% เชื่อว่ามีความเป็นไปได้หรือเป็นไปได้มาก มีเพียง 3% ที่คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้เลย และ 46% ไม่แน่ใจ

  • มาตรการทางการทูต

เมื่อถามถึงบทบาทญี่ปุ่นในการบรรเทาความตึงเครียด 35% สนับสนุนความพยายามทางการทูตที่เพิ่มขึ้น อีก 7% รู้สึกว่าญี่ปุ่นทำมากพอแล้ว และ 20% ยังคงตัดสินใจไม่ได้

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนบริษัทญี่ปุ่นไม่แสดงออกต่อสถานการณ์จีน-ไต้หวันมากเกินไป ขณะที่ยอมรับว่าการเตรียมพร้อมมีความสำคัญ และเตือนถึงมาตรการขั้นสูงสุด เช่น การถอนธุรกิจออกจากไต้หวันอย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม รายงานสำรวจนี้เน้นย้ำถึงความรู้สึกไม่แน่นอนในกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจชาวญี่ปุ่นในไต้หวัน เนื่องจากความตึงเครียดในภูมิภาครุนแรงสูงขึ้น

การดำเนินธุรกิจบนความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

สำหรับญี่ปุ่นแล้ว สถานการณ์ความขัดแย้งจีน-ไต้หวัน เป็นมากกว่าปัญหาระดับภูมิภาค เพราะเป็นสิ่งบรรจบกันระหว่างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผลประโยชน์ด้านความปลอดภัย และกลยุทธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์

แผนเตรียมการ ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ

ขณะที่ความตึงเครียดในภูมิภาคยังคงมีอยู่ ธุรกิจญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาการดำเนินการให้ต่อเนื่อง ไปพร้อมกับจัดการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

การเตรียมการของพวกเขาไม่เพียงสะท้อนถึงความรอบคอบขององค์กรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเข้าใจที่ครอบคลุมบริบทว่า ความมั่นคงของไต้หวัน เป็นพื้นฐานสำคัญของความมั่นคงทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น และสันติภาพในภูมิภาค

อ้างอิง : TheEurasianTime