'รถถัง Abrams' 38 คันของสหรัฐ ส่งถึง ‘ไต้หวัน’ แล้ว จากที่สั่งไป 108 คัน

กระทรวงกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยวันนี้ว่า ได้รับรถถังเอบรามส์ (Abrams) ล้ำสมัย 38 คันจากสหรัฐแล้ว จากที่สั่งซื้อ 108 คันในปี 2562 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหารต่อต้านการโจมตีจากจีนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
รถถังเอบรามส์ (Abrams) รุ่น M1A2 38 คัน จากที่สั่งซื้อเมื่อปี 2562 ทั้งหมด 108 คัน ถึงไต้หวันช่วงเย็นวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.) และถูกขนส่งไปยังฐานทัพฝึกซ้อมทางทหารในซินจู่ ทางตอนใต้ของไทเป ส่วนที่เหลือคาดว่าจะจัดส่งถึงในปี 2568 และปี 2569
เอเอฟพีระบุว่า “รถถังเอบรามส์” ที่เป็นหนึ่งในอาวุธหนักที่สุดของโลก เป็นเสาหลักสำคัญของกองทัพสหรัฐ และรัฐบาลวอชิงตันเป็นพันธมิตรคนสำคัญที่สุดของไต้หวันมาอย่างยาวนาน และเป็นซัพพลายเออร์ด้านอาวุธรายใหญ่สุดซึ่งทำให้รัฐบาลปักกิ่งโกรธเคือง เนื่องจากปักกิ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของตน
ปัจจุบันไต้หวันมีรถถังราว 1,000 คัน รวมทั้ง CM 11 Brave Tiger ที่ผลิตเอง และ M60A3 ที่ผลิตโดยสหรัฐ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้นแล้ว
ก่อนหน้านี้รัฐบาลไต้หวันได้จัดสรรงบประมาณมากกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์ สำหรับการจัดซื้อเอบรามส์ 108 คัน เนื่องจากไต้หวันเผชิญกับภัยคุกคามจากจีน ที่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อยึดครองเกาะเกาะปกครองตนเองแห่งนี้
แม้ไต้หวันมีอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และได้ปรับปรุงอาวุธต่าง ๆ แต่ไต้หวันยังคงพึ่งพาการซื้ออาวุธจากสหรัฐจำนวนมาก เพื่อเสริมแกร่งขีดความสามารถด้านความมั่นคงของตนเอง
อย่างไรก็ตาม แม้การจัดส่งอาวุธให้ไต้หวันของสหรัฐบัญญัติในกฎหมายแล้ว แต่ก็ยังมีอาวุธที่คั่งค้างยังไม่ได้จัดส่งจำนวนมาก เนื่องจากการหยุดชะงักของซัพพลายเชนช่วงการแพร่ระบาดโควิด และการขนส่งอาวุธของสหรัฐไปยังยูเครนและอิสราเอล ทำให้สหรัฐส่งอาวุธให้ไต้หวันได้ช้าลง
ตามข้อมูลของ Cato ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในวอชิงตัน ระบุว่า ปัจจุบันสหรัฐมีอาวุธที่ยังไม่ได้จัดส่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 21,000 ล้านดอลลาร์
ด้วยไต้หวันมีข้อเสียเปรียบด้านกำลังทหารและอาวุธหากเทียบกับจีน จึงเพิ่มงบประมาณด้านการทหารในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยไต้หวันได้จัดสรรงบฯกลาโหมมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 ที่ระดับ 19,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่จีนก็เพิ่มแรงกดดันทางทหารกับไต้หวันอยู่เรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาทิ การฝึกซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวัน







