‘สหรัฐ’ ขึ้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลจากจีน 50% หนุนเศรษฐกิจพลังงานสะอาด

‘สหรัฐ’ ขึ้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลจากจีน 50% หนุนเศรษฐกิจพลังงานสะอาด

‘สหรัฐ’ ขึ้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลจากจีน 50% หนุนเศรษฐกิจพลังงานสะอาดและอุตสาหกรรมในประเทศ เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในอนาคต มี 1 ม.ค. 2568

สำนักข่าวนิกเกอิเอชียรายงานว่า สำนักงานผู้แทนการค้าของ “สหรัฐ” (USTR) ได้ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลและโพลีซิลิคอนจากจีน สู่ระดับ 50% และปรับขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ทังสเตนขึ้นสู่ระดับ 25% โดยมาตรการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2568 

USTR ได้ประกาศใน Federal Register เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การนำเข้าสินค้าจากจีนยังคงเป็นอุปสรรคต่อการผลิตภายในประเทศ และการปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้สหรัฐมีอำนาจต่อรองที่แข็งแกร่งขึ้นในการเจรจาเพื่อให้จีนยุติการกระทำ นโยบาย และแนวปฏิบัติที่เป็นอันตรายต่อสหรัฐ และลดความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการกระทำเหล่านั้นในอนาคต

แคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเพิ่มภาษีศุลกากรดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบโต้ “นโยบายและแนวทางปฏิบัติที่เป็นอันตราย” ของจีน และยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการลงทุนด้านพลังงานสะอาดภายในประเทศที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของไบเดน ซึ่งจะส่งเสริม “เศรษฐกิจพลังงานสะอาด” และ “ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญ”

ทังสเตนถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศ ตลอดจนอุตสาหกรรมการแพทย์และยานยนต์ โดยสำนักงานการค้าสหรัฐระบุว่าการพึ่งพาผลิตภัณฑ์ทังสเตนจากจีนอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติสหรัฐ

อย่างไรก็ดี การขึ้นภาษีศุลกากรครั้งล่าสุดจะทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศเลวร้ายลงไปอีก ท่ามกลางความกังวลของสหรัฐเกี่ยวกับกำลังการผลิตส่วนเกินของจีนและการทุ่มตลาดของสินค้าราคาถูกจากจีน ซึ่งการประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. 2568

ก่อนหน้านี้ ไบเดน ได้ตัดสินใจเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากมาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนว่าผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ของจีน ซึ่งได้ย้ายฐานการผลิตมาตั้งโรงงานในประเทศเหล่านี้ ได้กระทำการทุ่มตลาดผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในตลาดสหรัฐ โดยภาษีการทุ่มตลาดของกระทรวงพาณิชย์มีตั้งแต่ 21.31% ถึง 271.2% ขึ้นอยู่กับบริษัท

ตามข้อมูลของรัฐบาลในปี  2566 การนำเข้าพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐมากกว่า 90% มาจากเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา ไทย มาเลเซีย และอินเดีย 

นอกจากการเก็บภาษีสินค้าจีนแล้ว ไบเดน ยังได้ลงทุนอย่างหนักในการเสริมกำลังเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศผ่านการอุดหนุน เช่น พระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อ (IRA) และพระราชบัญญัติ CHIPS

 

 

อ้างอิง Nikkei