ฝรั่งเศสวุ่น! รัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจ ขับ 'นายกฯ-รัฐบาล' ไปยกชุด

ฝรั่งเศสวุ่น! รัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจ ขับ 'นายกฯ-รัฐบาล' ไปยกชุด

การเมืองฝรั่งเศสจ่อวุ่นวายหนัก หลังรัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล จากปมใช้อำนาจพิเศษผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ คาดนายกรัฐมนตรียื่นหนังสือลาออกยกชุดกับประธานาธิบดีวันนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การเมืองใน "ฝรั่งเศส" จ่อวุ่นวายหนักภายหลังสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสลงมติ "ไม่ไว้วางใจรัฐบาล" เมื่อวันพุธที่ 4 ธ.ค. ส่งผลให้ประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป (อียู) เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่บั่นทอนความสามารถในการผ่านกฎหมายและควบคุมการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลตามมา

สมาชิกรัฐสภาทั้งฝ่ายขวาจัดและฝ่ายซ้ายจับมือกันสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี "มิเชล บาร์นิเยร์" ด้วยคะแนนเสียงมากถึง 331 เสียง จากทั้งหมด 577 ที่นั่งในสภา

ภายหลังพ่ายแพ้การโหวตไม่ไว้วางใจ บาร์นิเยร์ต้องยื่น "หนังสือลาออก" ของเขาและรัฐบาลต่อประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยของเขาที่ดำรงตำแหน่งมาได้ 3 เดือน เป็นรัฐบาลที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในสาธารณรัฐที่ห้าของฝรั่งเศสนับตั้งแต่ปี 2501 ขณะที่สื่อท้องถิ่นคาดการณ์ว่า บาร์นิเยร์จะยื่นหนังสือลาออกในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. นี้

ฝรั่งเศสวุ่น! รัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจ ขับ \'นายกฯ-รัฐบาล\' ไปยกชุด มิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส

ฝ่ายซ้ายจัดและฝ่ายขวาจัดได้ลงโทษบาร์นิเยร์ที่ใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญ ผ่านความเห็นชอบบางเรื่องในร่างงบประมาณปี 2568 โดยไม่ได้ผ่านการลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้ายในรัฐสภา ทำให้ขาดการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้มีการประหยัดงบประมาณ 6 หมื่นล้านยูโร (ราว 2.16 ล้านล้านบาท) เพื่อพยายามลดการขาดดุลที่พุ่งสูงของฝรั่งเศส

“ความเป็นจริงนี้ (การขาดดุล) จะไม่หายไปเพียงเพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” บาร์นิเยร์กล่าวกับสมาชิกรัฐสภาก่อนการลงคะแนนเสียง โดยเสริมว่าการขาดดุลงบประมาณจะกลับมาหลอกหลอนรัฐบาลชุดต่อไป ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ตาม

ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีรัฐบาลฝรั่งเศสชุดใดเลยที่แพ้การลงมติไม่ไว้วางใจ นับตั้งแต่ยุคประธานาธิบดีจอร์จ ปอมปิดู ในปี 1962 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมาครงประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่เมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่ขั้วการเมืองฝ่ายซ้ายจะชนะขั้วการเมืองขวาจัดไปได้อย่างเฉียดฉิว และยิ่งพันธมิตรการเมืองต้องหายไปจากการโหวตไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จะยิ่งทำให้ฝรั่งเศสเสี่ยงที่จะไม่มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมั่นคงหรือไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณปี 2568 ได้ในปีนี้ แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะเปิดช่องให้สามารถผ่านมาตรการพิเศษออกมาได้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์งบประมาณ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐก็ตาม