‘แฮร์ริส’ ระดมพลช่วยดึงเสียงกลุ่มผู้ชาย

‘แฮร์ริส’ ระดมพลช่วยดึงเสียงกลุ่มผู้ชาย

รอยเตอร์ส รายงานว่า ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังจะมาถึง รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสกำลังดิ้นรนเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากอาสาสมัครชายในสหภาพแรงงานบางแห่ง ด้วยการโทรศัพท์และไปเยี่ยมบ้าน เพื่อกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตออกมาลงคะแนนเสียง

สหภาพแรงงานส่วนใหญ่สนับสนุนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมาอย่างยาวนาน และแฮร์ริสและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่างก็สนับสนุนสหภาพแรงงานในการเจรจาสัญญากับนายจ้างและปกป้องสิทธิแรงงาน

แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2017-2021 กำลังได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกสหภาพแรงงานบางส่วนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และการลดลงของการสนับสนุนแฮร์ริสอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันที่สูสีนี้

หากแฮร์ริสได้รับเลือกตั้ง แฮร์ริสจะสร้างประวัติศาสตร์ของสหรัฐในฐานะประธานาธิบดีหญิงสหรัฐคนแรกและคนที่สองที่เป็นคนผิวดำ และการแบ่งแยกทางเพศและเหยียดเชื้อชาติถูกมองว่าเป็นอุปสรรคในการชนะการเลือกตั้งของเธอ

ลิซ ชูลเลอร์ ประธานสหภาพแรงงาน AFL-CIO ซึ่งมีสมาชิก 12.5 ล้านคนและใหญ่สุดในสหรัฐ กล่าวว่า โดยรวมแล้วความกระตือรือร้นที่จะเลือกแฮร์ริสนั้นสูงมาก แต่การเลือกปฏิบัติทางเพศอาจส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนเธอในสหภาพแรงงานบางแห่ง

“พูดกันตามตรง มีคนจำนวนมากที่มองผู้สมัครหญิงแล้วมองข้ามเธอไป เพราะเธอถูกมองว่าไม่สามารถเป็นประธานาธิบดี” ชูลเลอร์กล่าว “ไม่มีใครตั้งคำถามต่อโดนัลด์ ทรัมป์ในลักษณะนั้น”

ชูลเลอร์บอกว่า การไปพบผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพศชายเหล่านั้นที่บ้านอาจเป็นเรื่องท้าทาย และ AFL-CIO กำลังแก้ไขปัญหานี้ด้วยการไปเยี่ยมผู้ชายที่ไซต์งานของพวกเขาแทนซึ่งมีโอกาสพูดคุยเพื่อลดข้อกังวลของพวกเขา

ปัญหานี้รุนแรงเป็นพิเศษในสหภาพแรงงานด้านการก่อสร้าง เช่น ช่างไฟฟ้าและช่างประปา ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และเป็นคนผิวขาว

เจ้าหน้าที่แรงงานกล่าวว่า ส่วนสหภาพแรงงานในภาคบริการซึ่งมีขนาดใหญ่นั้น มีสมาชิกหลากหลายกว่า และพบว่าช่องว่างทางเพศเพิ่มมากขึ้น แต่การสนับสนุนผู้ชายที่ลดลงนั้นถูกชดเชยด้วยการสนับสนุนจากผู้หญิงที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้ง โดยผลสำรวจของรอยเตอร์สแสดงให้เห็นว่า แฮร์ริสได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงผิวขาว ขณะที่ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ชายเมื่อเทียบกับปี 2020

เจมส์ มาราเวเลียส ผู้นำ AFL-CIO แห่งเดลาแวร์ กล่าวว่า การสนับสนุนแฮร์ริสในหมู่สมาชิกชายนั้นลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอมีแนวคิดเสรีนิยมในประเด็นทางสังคม และส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่านิยมสังคมผู้ชายเป็นใหญ่ “ฉันกลัวว่าบางคนจะไม่ออกมาลงคะแนนเสียงเลย” มาราเวเลียสกล่าวถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในวันเลือกตั้ง

ในการสัมภาษณ์ ผู้ไปเยือนบ้านของสมาชิก AFL-CIO กล่าวว่า ครัวเรือนบางครัวเรือนมองว่าแฮร์ริสและพรรคเดโมแครต เป็นผู้ปกป้องสิทธิสหภาพแรงงานอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่ครัวเรือนอื่นๆ สูญเสียศรัทธาในพรรคเดโมแครตและเห็นจุดร่วมกันมากขึ้นกับทรัมป์

“ผู้ชายเป็นพวกที่คุยด้วยยากที่สุด” หนึ่งในผู้ไปเยือนบ้านสมาชิก AFL-CIO ทั้ง 6 คนที่ได้รับการสัมภาษณ์กล่าว “พวกเขาต้องการโต้ เถียงและไม่เห็นด้วยกับข้อเท็จจริง”

ตามคำกล่าวของผู้จัดงานในท้องถิ่น บอกว่า ความพยายามเยี่ยมเยียนบ้านสมาชิกที่นำโดย AFL-CIO ในพื้นที่ฟิลาเดลเฟีย จำต้องจำกัดขอบเขตให้แคบลงสำหรับผู้สนับสนุนแฮร์ริสที่เป็นที่รู้จักเท่านั้น หลังจากที่อาสาสมัครจำนวนมากที่คาดว่าจะมารวมตัวกันไม่เป็นไปดังที่คิด และว่า สหภาพแรงงานใหญ่ๆ ให้การรับรองแฮร์ริส รวมถึงสหภาพแรงงาน United Auto Workers แต่ภาพรวมกลับไม่สอดคล้องกันในระดับคนงานทั่วไปในอุตสาหกรรมต่างๆ และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ 

ผลสำรวจสนับสนุนแฮร์ริส แต่จะเพียงพอหรือไม่

ริชาร์ด โกลวาคกี ประธาน UAW Local 180 ซึ่งเป็นตัวแทน ของคนงานในโรงงานผลิตรถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ของ บริษัท CNH Industrial กล่าวว่า การสนับสนุนแฮร์ริสยังคงแข็งแกร่งในเมืองราซีน รัฐวิสคอนซิน เขากล่าวว่า ผู้เกษียณอายุกำลังออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงอย่างแข็งขัน

แต่สหภาพแรงงาน International Brotherhood of Teamsters ซึ่งมีสมาชิก 1.3 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวแทนของคนงานตั้งแต่นักบินสายการบินไปจนถึงคนดูแลสวนสัตว์ ตัดสินใจไม่รับรองผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังจากผลสำรวจสมาชิกพบว่าทรัมป์นำแฮร์ริส 59.6% ต่อ 34%

ผลโพลของ Reuters/Ipsos แสดงให้เห็นว่า แฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์ 47% ต่อ 36% ในกลุ่มชาวอเมริกันที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานหรือมีสมาชิกในครอบครัวอยู่ในสหภาพแรงงาน 

ทั้งนี้ การสำรวจผู้ตอบแบบสอบถามครัวเรือน สหภาพแรงงาน 655 คนจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-21 ตุลาคม และมีค่าความคลาดเคลื่อนประมาณ 4 %

ในการเลือกตั้งปี 2020 ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ 16 จุด ซึ่ง อยู่ที่ 56% ต่อ 40% จากการสำรวจของ Edison Research ที่สำรวจผู้ที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีสมาชิกสหภาพแรงงาน

ลอเรน ฮิตต์ โฆษกของคณะหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวว่า คะแนนสนับสนุนที่ลดลงอย่างมากในกลุ่มผู้ชายที่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัยนั้นสามารถชดเชยได้ด้วยคะแนนที่เพิ่มขึ้นจากผู้หญิงที่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย

คะแนนเสียงของสหภาพแรงงานมีความสำคัญ

AFL-CIO ระบุว่า จำนวนสมาชิกสหภาพแรงงานคิดเป็นหนึ่งในห้าของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และ วิสคอนซิน ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิการเลือกตั้ง รัฐทั้งสามรู้จักกันในชื่อ “กำแพงสีน้ำเงิน” เนื่องจากมีความสำคัญต่อพรรคเดโมแครต เป็นส่วนหนึ่งของเจ็ดรัฐสมรภูมิที่จะตัดสินผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้

นอกจากนี้ สหภาพแรงงานยังเป็นกุญแจสำคัญในการพยายาม “ดึงคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง” ของพรรคเดโมแครตในรัฐเหล่านี้ และสมาชิกของสหภาพมักจะเคาะประตูบ้านหลายพันหลังก่อนการเลือกตั้ง เพื่อรวบรวมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 

แฮร์ริสซึ่งมีเชื้อสายเอเชียใต้ ไม่กังวลการเหยียดเพศ โดยกล่าวว่า ประเทศสหรัฐ “พร้อมอย่างแน่นอน” ที่จะเลือกประธานาธิบดีหญิง 

ด้านนายจิมมี่ วิลเลียมส์ ประธานสหภาพแรงงานนานาชาติแห่งช่างทาสีและช่างอาชีพที่เกี่ยวข้อง (IUPAT) ซึ่งมีสมาชิกกว่า 140,000 ราย กล่าวว่า การสนับสนุนที่ลดลงจากผู้ชายนั้นได้รับการชดเชยจากผู้หญิงในสหภาพของเขาในสัดส่วนที่มากกว่า

“ผมได้พูดคุยกับสมาชิกผู้หญิงในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน และโอไฮโอ และผมสามารถบอกคุณได้ว่าไม่มีสมาชิกผู้หญิงคนใดที่ผมเคยพูดคุยด้วยเลยที่สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่แม้แต่คนเดียว” เขากล่าว

 

อ้างอิง: Reuters