'เยอรมนี' จ่อลด 'ความช่วยเหลือทางทหาร' แก่ยูเครนปี 68 แม้กังวลทรัมป์ขึ้นเป็นปธน.

เยอรมนี เตรียมลดการส่งมอบความช่วยเหลือแก่ยูเครนในปี 2568 สู่ระดับ 4,000 ล้านยูโร จากระดับ 8,000 ล้านยูโรในปีนี้ แม้มีความกังวลว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" จะกลับมาเป็นปธน.อีกครั้ง ซึ่งอาจกระทบกับการให้ความช่วยเหลือยูเครนในอนาคต
เยอรมนีวางแผนปรับลดการส่งมอบความช่วยเหลือให้ยูเครนในปีหน้า แม้มีความกังวลว่าการสนับสนุนรัฐบาลเคียฟของสหรัฐอาจลดลงหาก “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2
จากร่างงบประมาณปี 2568 ที่รอยเตอร์ตรวจสอบ พบว่า การส่งมอบความช่วยเหลือยูเครนของเยอรมนี อาจลดลงสู่ระดับ 4,000 ล้านยูโร ในปี 2568 จากราว 8,000 ล้านยูโรในปีนี้ เนื่องจากเยอรมนีหวังว่ายูเครนจะสามารถตอบสนองความต้องการทางทหารส่วนใหญ่ได้ด้วยเงินกู้ 50,000 ล้านดอลลาร์ จากสินทรัพย์รัสเซียที่ถูกยึดซึ่งได้รับการอนุมัติจากกลุ่ม G7
คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเยอรมนี กล่าวเมื่อวันพุธ (17 ก.ค.) ว่า “การจัดหาเงินทุนของยูเครนมีความมั่นคงต่ออนาคตอันใกล้ ด้วยการสนับสนุนทางการเงินจากยุโรปและเงินกู้จากกลุ่ม G7”
ขณะเดียวกัน สหรัฐผลักดันให้มีการมอบเงินกู้ยืมล่วงหน้าเพื่อให้ยูเครนได้รับเงินก้อนใหญ่ในช่วงนี้ ซึ่งบรรดาผู้นำในสหภาพยุโรป (อียู) ก็เห็นพ้องกับการผลักดันของสหรัฐ เพราะสามารถช่วยลดโอกาสขาดแคลนเงินทุนของยูเครน หากทรัมป์กลับมาเป็นปธน.สหรัฐสมัยที่ 2
สัปดาห์นี้ยุโรปต่างตื่นตระหนก หลังทรัมป์เลือก เจ.ดี. แวนซ์ ลงชิงรองปธน.สหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ต่อต้านการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน และเตือนยุโรปว่าจะต้องพึ่งพาสหรัฐเพื่อปกป้องภูมิภาคน้อยลง
ขณะที่ทรัมป์ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐในชาติตะวันตก เนื่องจากทรัมป์เผยว่าตนจะไม่ปกป้องประเทศที่ล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายการใช้จ่ายทางทหารขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และอาจสนับสนุนรัสเซียให้โจมตีประเทศเหล่านั้น
เยอรมนีก็เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการไม่บรรลุเป้าหมายการใช้จ่ายทางทหารของนาโตที่ระดับ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
อ้างอิง: Reuters







