GDP ญี่ปุ่นไตรมาสแรกหดตัว 1.8% การบริโภคซบเซายาว แม้มีการปรับขึ้นค่าจ้าง

สำนักข่าวนิกเคอิเอเชีย รายงานอ้างสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัว 1.8% ตัวเลขนี้ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะหดตัว 1.9%  และตัวเลขเบื้องต้นที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 2.0% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการหดตัวของเศรษฐกิจไม่รุนแรงเท่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

การหดตัวเป็นผลมาจาก “การบริโภคภาคเอกชน” ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโต GDP หดตัวลง 2.9% ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 นั้นแสดงถึงความซบเซาของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปรับขึ้นค่าจ้างก็ตาม และตัวเลขการลงทุนภาคเอกชน หดตัวลง 1.7% ซึ่งปรับตัวขึ้น 1.5% จากตัวเลขเบื้องต้น การส่งออก ลดลง 19% ในขณะที่การนำเข้า ลดลง 12.7%

การใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน ที่ 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งมาจากค่าธรรมเนียมการศึกษาที่สูงขึ้น รวมถึงการใช้จ่าย และรับประทานอาหารนอกบ้านที่มากขึ้น เนื่องจากมีวันหยุดยาวสามวัน ซึ่งไม่มีในปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวถึงจุดต่ำสุดในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งมีแนวโน้มเกิดขึ้นแม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อภาคส่งออก เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนที่ซบเซา ปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ยังคงรบกวนภาคการผลิต และการหยุดชะงักการผลิตในโรงงานผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นเดินหน้าผลักดันให้มีการขึ้นค่าแรง โดยเงินเดือนฐานเฉลี่ยในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.3% จากปีก่อน ตามข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.67 

แม้ว่าการปรับขึ้นค่าแรงนี้จะเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 29 ปี แต่ค่าจ้างที่แท้จริงเมื่อพิจารณาเงินเฟ้อแล้ว ยังคงลดลงเป็นเดือนที่ 25 ติดต่อกัน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าการปรับขึ้นค่าแรง

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์