'จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี' ประชุมสุดยอดในรอบ 5 ปี รับความท้าทายเขย่าภูมิภาค

'จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี' ประชุมสุดยอดในรอบ 5 ปี  รับความท้าทายเขย่าภูมิภาค

ผู้นำ 'จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น' กลับมาร่วมการประชุมสุดยอด 3 ชาติเอเชียตะวันออกครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังความท้าทายรุมเร้าทั้งความมั่นคงยันสงครามการค้า

เกาหลีใต้เปิดบ้านเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ 3 ฝ่ายระหว่าง 'จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้' และนับการประชุมสุดยอดสามฝ่ายครั้งแรกในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2562 ท่ามกลางสถานการณ์ในภูมิภาคที่ตึงเครียดจากทั้งเรื่องความมั่นคงและสงครามการค้า 

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เดินทางถึงกรุงโซลในวันนี้ (26 พ.ค.) เพื่อร่วมหารือกับประธานาธิบดียุนซอกยอล แห่งเกาหลีใต้ โดยในวันนี้จะมีการหารือทวิภาคีและการรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน ก่อนที่จะเริ่มการประชุมสุดยอดผู้นำ 3 ฝ่ายขึ้นในวันจันทร์ที่ 27 พ.ค. และตามมาด้วยการหารือกับคณะผู้นำธุรกิจของแต่ละประเทศ

ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 ประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจรวมกันเป็น 25% ของจีดีพีโลกเคยจัดการประชุมสุดยอดร่วมกันมาก่อนหลายครั้ง แต่ต้องหยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นเหตุผลจากความตึงเครียดทางการเมือง 

นายกฯ คิชิดะกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางออกจากกรุงโตเกียวว่า คาดหวังว่าจะมีการประชุมกันอย่างตรงไปตรงมากับผู้นำเกาหลีใต้และจีน และการประชุมซัมมิทครั้งนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือเชิงปฏิบัติที่มุ่งสู่อนาคตด้วยกัน  

เจ้าหน้าที่ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้จะครอบคลุมความร่วมมือ 6 ด้าน ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจและการค้า การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน 

บลูมเบิร์กระบุว่าการประชุมครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญมากต่อจีน เนื่องจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมีการพัฒนาความสัมพันธ์กันดีขึ้นในช่วงหลายปีหลังมานี้ และทั้งสองประเทศยังเพิ่มความร่วมมือในด้านความมั่นคงกับสหรัฐ อีกทั้งรัฐบาลวอชิงตันยังล็อบบี้ให้ทั้งสองชาติร่วมมือในการสกัดจีนไม่ให้เข้าถึงชิปและอุปกรณ์การผลิตชิปล้ำหน้า ใน สงครามเซมิคอนดักเตอร์ ที่กำลังมีการแข่งขันอย่างดุเดือดในปัจจุบัน  

ในขณะที่ฝ่ายญี่ปุ่นและเกาหลีใต้นั้นต้องการให้จีนช่วยใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจในการควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และทั้งสองประเทศนี้ยังมีความกังวลเรื่องช่องแคบไต้หวันซึ่งทวีความตึงเครียดขึ้นหลังจากที่จีนเปิดการซ้อมรบบริเวณใกล้กับช่องแคบไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังจากที่ผู้นำคนใหม่ ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งใหม่เพียงไม่กี่วัน  

ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้และนายกฯ ญี่ปุ่น อาจเดินทางเยือนสหรัฐในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยคาดว่าอาจจะเป็นการประชุมซัมมิท 3 ฝ่ายร่วมกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เหมือนกับที่เคยมีขึ้นเมื่อปีก่อนที่แคมป์เดวิส ซึ่งคาดว่าจะเน้นที่เรื่องความมั่นคงเป็นหลัก