จำคุก 4 เดือนเจ้าพ่อไบแนนซ์ 'ฉางเผิง จ้าว' เศรษฐีคริปโทรายล่าสุดที่เข้าคุก

จำคุก 4 เดือนเจ้าพ่อไบแนนซ์ 'ฉางเผิง จ้าว' เศรษฐีคริปโทรายล่าสุดที่เข้าคุก

ศาลสหรัฐตัดสินจำคุก 4 ปี 'ฉางเผิง จ้าว' อดีตซีอีโอของยักษ์คริปโทฯ 'ไบแนนซ์' ในคดีฟอกเงิน โทษน้อยกว่าที่อัยการเสนอไป 36 เดือนหลังเจ้าตัวรับสารภาพ สื่อเชื่อถึงติดคุกก็ไม่สะเทือนความมั่งคั่งกว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ของเจ้าตัว

KEY

POINTS

  • ฉางเผิง จ้าว อดีตซีอีโอของ 'ไบแนนซ์' ถูกศาลสหรัฐตัดสินจำคุก 4 เดือน หลังเจ้าตัวยอมรับผิดฐานละเมิดกฎหมายฟอกเงิน
  • โทษที่ได้รับถือว่าน้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับที่อัยการเสนอโทษจำคุก 36 เดือน โดยเชื่อว่าการละเมิดกม.ฟอกเงิน เป็นความตั้งใจของจ้าว ไม่ใช่ความบกพร่องเรื่องการกำกับดูแล 
  • จ้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของไบแนนซ์เพราะเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงร่วมกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ 
  • อย่างไรก็ตาม จ้าวยังคงเป็นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดคนหนึ่งในโลกคริปโทฯ ด้วยสินทรัพย์กว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์

"ฉางเผิง จ้าว" (Changpeng Zhao) อดีตซีอีโอของไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ของโลก ถูกศาลในเมืองซีแอตเทิล สหรัฐ พิพากษาจำคุก 4 เดือน เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งเป็นโทษที่น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่อัยการเสนอไป 36 เดือน ภายหลังเจ้าตัวยอมรับผิดในคดีละเมิดกฎหมายการฟอกเงินที่ปล่อยให้เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์ม 

"ผมขอโทษ" จ้าวในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม กล่าวกับผู้พิพากษาในศาลก่อนรับฟังผลการตัดสิน

"ผมเชื่อว่าก้าวแรกของการรับผิดชอบก็คือ การยอมรับข้อผิดพลาดทั้งหมด" "ผมล้มเหลวไม่ได้มีการวางโปรแกรมเรื่องการต่อต้านการฟอกเงินที่มากพอ...ตอนนี้ผมตระหนักแล้วว่าความผิดพลาดนั้นร้ายแรงแค่ไหน" จ้าวกล่าว  

ทั้งนี้ ฉางเผิง จ้าว หรือที่ในวงการเรียกกันว่า CZ ยอมรับสารภาพเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาว่าได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ และยอมบรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเพื่อจบคดีความนานข้ามปีกับไบแนนซ์ หนึ่งในนั้นคือการลงจากตำแหน่งซีอีโอ แม้ว่าจ้าวจะยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถึงราว 90% ในไบแนนซ์อยู่ก็ตาม และมีการเรียกปรับรวมถึงริบทรัพย์ไบแนนซ์เป็นเงินถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่จ้าวตกลงจ่ายค่าปรับ 50 ล้านดอลลาร์ 

จำคุก 4 เดือนเจ้าพ่อไบแนนซ์ \'ฉางเผิง จ้าว\' เศรษฐีคริปโทรายล่าสุดที่เข้าคุก

ในการตัดสินคดีเมื่อวานนี้ จ้าวถูกกล่าวหาว่าล้มเหลวในการวางระบบเพื่อต่อต้านการฟอกเงินให้มากพอ ตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยความลับทางธนาคาร (Bank Secrecy Act) และปล่อยให้ไบแนนซ์มีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ทั้งระหว่างคนอเมริกันและบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ 

นอกจากคดีของจ้าวแล้ว ไบแนนซ์ยังถูกฟ้องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) และคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ในข้อกล่าวหาเรื่องการจัดการสินทรัพย์ของลูกค้าอย่างไม่เหมาะสม รวมถึงมีการดำเนินการแพลตฟอร์มเอ็กซ์เชนจ์ที่ผิดกฎหมายและไม่ได้รับการจดทะเบียนในสหรัฐ 

ทั้งนี้ CZ นับเป็นคนดังในแวดวงคริปโทฯ รายล่าสุดที่ถูกจับกุมและถูกตัดสินโทษจำคุก หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน "แซม แบงก์แมน ฟรีด" (Sam Bankman-Fried) จากแพลตฟอร์ม FTX เพิ่งถูกตัดสินจำคุกไป 25 ปี ขณะที่ "โด ควอน" (Do Kwon) จาก Terraform Labs ในเกาหลีใต้ ก็กำลังถูกฟ้องทั้งในสหรัฐและเกาหลีใต้   

ถึงติดคุกก็ไม่กระทบทรัพย์สินกว่า 1 ล้านล้านบาท

แม้ว่า CZ ต้องเผชิญกับโทษจำคุก แต่บรรดานักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างเชื่อว่า ความมั่งคั่งส่วนตัวอันมหาศาลของอดีตซีอีโอไบแนนซ์รายนี้จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แถมยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นด้วยหากตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น 

เทร โลเวลล์ นักกฎหมายจากลอสแอนเจลิสเปิดเผยกับซีเอ็นบีซีว่า รัฐบาลดำเนินการเฉพาะค่าปรับตามที่กำหนดเท่านั้น ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ทรัพย์สินหรือความมั่งคั่งโดยรวมของจ้าว สอดคล้องกับที่ เนียมา ราห์มานี อดีตอัยการรัฐบาลกลางสหรัฐระบุว่า ความมั่งคั่งส่วนตัวของจ้าวจะไม่ได้รับผลกระทบจากบทลงโทษในครั้งนี้

ทั้งนี้ จากการประเมินความมั่งคั่งล่าสุดในรายงานมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2567 โดยนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ระบุว่า จ้าวมีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด ณ วันที่ 8 มี.ค. 2567 ประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.22 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นมาจาก 10,500 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน