‘ปานปรีย์’ ลงพื้นที่แม่สอด ตรวจสถานการณ์ชายแดน

‘ปานปรีย์’ ลงพื้นที่แม่สอด ตรวจสถานการณ์ชายแดน

สำนักข่าวเอเอฟพีและกระทรวงการต่างประเทศรายงาน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีต่างประเทศตรวจราชการพรมแดนไทยเมียนมา หลังเกิดเหตุปะทะมาหลายวัน จนทหารเมียนมาต้องสละฐานที่มั่นในเมืองเมียวดี

กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2567 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางลงพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตลอดจนผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมด้วย

ในช่วงเช้า รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้พบหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และผู้แทนจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์บริเวณชายแดนล่าสุด อีกทั้งยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพื่อประเมินผลกระทบและเตรียมความพร้อมของฝ่ายไทยอย่างมีประสิทธิภาพและทันที

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการเยือนหนึ่งวัน นายปานปรีย์ได้ตรวจตราความพร้อมรับมือหากประชาชนหนีการสู้รบไหลทะลักกันเข้ามา 

ส่วนบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเมยเช้านี้เงียบสงบ ทหารไทยนายหนึ่งซึ่งประจำการอยู่บริเวณชายแดน กล่าวว่า ได้ยินเสียงยิงปืนและระเบิดในฝั่งเมียนมาเมื่อคืนที่ผ่านมา  วันนี้ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีได้ยินเสียงสวดมนต์จากลำโพงฝั่งเมียนมา

รถหุ้มเกราะไทยเจ็ดคันขนส่งทหารมาถึงในช่วงเช้าเพื่อเปลี่ยนเวร ขณะที่รถบรรทุกจากฝั่งเมียนมาที่ใช้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เข้ามายังฝั่งไทยมีจำนวนไม่มาก ไม่เห็นรถบรรทุกขับเข้าไปในเมียนมา

คนขับรถบรรทุกคันหนึ่งที่ขับมาถึงจุดตรวจในประเทศไทย บอกกับทหารว่า มีความสุข “ผมคิดว่าไม่ได้กลับมาแล้ว”

แหล่งข่าวทหารเผยกับเอเอฟพีในวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) ว่า รัฐบาลทหารเมียนมาส่งกำลังเข้าไปเสริมในเมืองเมียวดี ส่วนแหล่งข่าวรายหนึ่งจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) กล่าวอย่างไม่มีรายละเอียดว่า ในวันศุกร์ (12 เม.ย.) นักรบเคเอ็นยูและพันธมิตร “กองกำลังป้องกันประชาชน” (พีดีเอฟ) ปะทะกับทหารที่เมืองกอกะเร็ก ห่างจากเมียวดีราว 40 กิโลเมตร

ชาวบ้านคนหนึ่งในเมือง Kyonedoe ที่อยู่ใกล้เคียงเล่าว่า พลเรือนสองคนบาดเจ็บจากการยิงปืนใหญ่เมื่อคืนวันพฤหัสบดี