'ปานปรีย์ - รมว.เซิน' ประชุมทวิภาคีไทย - เวียดนาม 'ส่งเสริมเศรษฐกิจ - การค้า' รอบด้าน

'ปานปรีย์ - รมว.เซิน' ประชุมทวิภาคีไทย - เวียดนาม 'ส่งเสริมเศรษฐกิจ - การค้า' รอบด้าน

"ปานปรีย์ พหิทธานุกร" ร่วม "ประชุมทวิภาคีไทย - เวียดนาม" กับ "บุ่ย แทงห์ เซิน" รมว.กต.เวียดนาม ยกระดับสัมพันธ์ กระชับความร่วมมือ และส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวร่วมกันรอบด้าน

 

การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ไทย - เวียดนาม ครั้งที่ 5 ระหว่าง บุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม และปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้ รมว.ปานปรีย์ แถลงว่า ในการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรมว.เซิน ไทยและเวียดนามได้หารือร่วมกันในหลายประเด็นที่ครอบคลุม

ทั้งสองฝ่ายได้เผยถึงความมุ่งมั่นที่มีร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าทั้งสองประเทศจะเติบโต และเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ซึ่งประเด็นสำคัญหลังการประชุมมีอยู่ 6 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่

1. ไทย - เวียดนามเห็นพ้องร่วมกันที่จะประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ความเป็นหุ้นส่วนแบบยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehe0nsive Strategi Partnership) ในระหว่างการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ในเร็วๆ นี้

ปานปรีย์ ยินดีที่ไทยจะได้เป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่สร้างความเป็นหุ้นส่วนแบบยุทธศาสตร์รอบด้านกับเวียดนาม ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวไม่เพียงนำความสงบสุข ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ไทยและเวียดนามเท่านั้น แต่ยังส่งผลทั่วทั้งภูมิภาค

2. ไทย-เวียดนาม เห็นพ้องต้องกันว่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันจะบรรลุตามเป้าหมายที่ระดับ 25,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9.15 แสนล้านบาท

ทั้งสองฝ่ายได้หารือมาตรการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงตลาดสินค้าระหว่างกัน เช่น เพิ่มโควตานำเข้าสินค้าปศุสัตว์ และทำความตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangement) เกี่ยวกับสินค้าท้องถิ่นอย่าง สินค้าโอทอปของไทย และสินค้าโอคอปของเวียดนาม

รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยยังได้ขอให้รัฐมนตรีเซินช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งสินค้าไทย โดยเฉพาะในด่านชายแดนเวียดนาม-จีน ในช่วงเข้าสู่ฤดูผลไม้ไทย

\'ปานปรีย์ - รมว.เซิน\' ประชุมทวิภาคีไทย - เวียดนาม \'ส่งเสริมเศรษฐกิจ - การค้า\' รอบด้าน

3.ไทย-เวียดนาม จะทำงานร่วมกันเพื่อให้การลงทุนระหว่างกันเติบโตมากขึ้น

โดยทั้งสองฝ่ายจะตรวจสอบให้แน่ใจว่า หน่วยงานของทั้งสองประเทศจะเข้ามาให้คำปรึกษาเป็นประจำ เพื่อบรรเทาข้อกังวลของนักลงทุน

ปัจจุบันไทยเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 9 ในเวียดนาม ขณะที่เวียดนามเป็นนักลงทุนเกิดใหม่ (emerging investor) ในไทย

4.ไทย-เวียดนาม เห็นด้วยที่จะจัดตั้งกลุ่มทำงานเพื่อขับเคลื่อนแนวทาง Three Connects เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ซึ่งแนวทาง Three Connects ได้แก่

1.การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในสาขาที่เกื้อกูลกัน 2.การเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก และผู้ประกอบการท้องถิ่น และ 3.การเชื่อมโยงกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ปานปรีย์ ย้ำว่าสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายมุ่งเน้นส่งเสริมอย่างเร่งด่วนคือ การส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและสตาร์ตอัป

5.ไทย-เวียดนาม จะร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยว และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาคเข้ามาในภูมิภาคมากขึ้น

โดยจะยกระดับความเชื่อมโยงด้านการขนส่ง อาทิ เพิ่มเที่ยวบิน และพัฒนาเส้นทางรถบัส และเส้นทางทะเลชายฝั่ง ที่เชื่อมต่อไทย เวียดนาม ลาว และกัมพูชา

นอกจากนี้ไทย เวียดนามและประเทศอื่นๆ เตรียมร่วมมือกันผลักดันประเทศในภูมิภาคให้เป็น Single Destination ภายใต้คอนเซปต์ “6 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง

6.ไทย-เวียดนามเห็นด้วยที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในระดับท้องถิ่นสู่ท้องถิ่นให้เข้มแข็งมากขึ้น

รมว.กต. เผยว่า ไทย และเวียดนามมีเมืองพี่เมืองน้องที่ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันอยู่ 16 เมือง ซึ่งทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะได้ประโยชน์จากความเป็นหุ้นส่วนในระดับท้องถิ่น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจท้องถิ่น และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน

นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันให้การสนับสนุนลาว ผู้เป็นประธานอาเซียนในปีนี้

ในประเด็นเมียนมา ไทย-เวียดนาม มีเป้าหมายเดียวกันที่อยากจะเห็นเมียนมาสงบสุข มั่นคง และเป็นปึกแผ่น

ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และเห็นด้วยที่มีความจำเป็นจัดแถลงการร่วมอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเตรียมติดต่อประสานงานกับลาว ผู้เป็นประธานอาเซียน เกี่ยวกับสถานการณ์เร่งด่วนในขณะนี้

ส่วนประเด็นในทะเลจีนใต้ ไทยจะร่วมงานกับเวียดนาม และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการได้ประโยชน์ร่วมกัน และเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ

\'ปานปรีย์ - รมว.เซิน\' ประชุมทวิภาคีไทย - เวียดนาม \'ส่งเสริมเศรษฐกิจ - การค้า\' รอบด้าน

“รัฐมนตรีต่างประเทศเซิน และผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีของเรามีความก้าวหน้า พวกเราต่างทราบดีว่ามีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เราจะดำเนินการหารือกันอย่างใกล้ชิดให้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ” ปานปรีย์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้านรัฐมนตรีเซิน ยินดีที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ความเป็นหุ้นส่วนแบบยุทธศาสตร์รอบด้าน และร่วมมือกันดำเนินงานหลายด้าน เพื่อส่งเสริมความเจริญก้าวหน้า อาทิ ในด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ และสนับสนุนความกินดีอยู่ดีของประชาชน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งในอาเซียน

\'ปานปรีย์ - รมว.เซิน\' ประชุมทวิภาคีไทย - เวียดนาม \'ส่งเสริมเศรษฐกิจ - การค้า\' รอบด้าน

“รองนายกฯปานปรีย์ และผมมั่นใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความสมบูรณ์ พร้อมเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น” รมว.กต.เซิน กล่าว

 

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์