ADB หั่นจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 2.6% สวนทางภูมิภาคเติบโตดี 4.9%

ADB หั่นจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 2.6% สวนทางภูมิภาคเติบโตดี 4.9%

'เอดีบี' ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้เหลือแค่ 2.6% จากเดิมที่เคยให้ไว้ 3.3% ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียขยายตัว 4.9% ปีนี้ แม้เจอความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ แต่แนวโน้มโดยรวมยังเป็นบวก

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุดในวันนี้ (11 เม.ย.) ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัว 4.9% ทั้งในปี 2567 และ 2568

แม้สภาพแวดล้อมในต่างประเทศยังคงไม่แน่นอน ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่แนวโน้มโดยรวมของเศรษฐกิจเอเชียยังคงเป็นบวก
 

อัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าวว่า การที่ประเทศส่วนใหญ่ "ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" รวมทั้งการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย

ADB คาดว่าเศรษฐกิจในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "จะเติบโตโดดเด่นที่สุดในภูมิภาค" พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศเหล่านี้ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วยการยกระดับด้านการค้าและการลงทุนข้ามพรมแดน รวมทั้งเครือข่ายอุปทานสินค้าโภคภัณฑ์

ส่วนภาวะ "เงินเฟ้อ" ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 3.2% ในปี 2567 จากระดับ 3.3% ในปี 2566 และคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3% ในปี 2568

อย่างไรก็ดี รายงานของ ADB ได้เตือนเกี่ยวกับความท้าทายหลายด้านที่จะมีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยระบุว่าเศรษฐกิจเอเชียมีความเปราะบางต่อสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้ง ซึ่งจะส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานเผชิญกับภาวะชะงักงัน และทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอีก

นอกจากนี้ ADB ยังระบุว่า หนี้สาธารณะในหลายประเทศเริ่มทรงตัวหลังจากมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ตัวเลขหนี้สินดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนโรคโควิด-19 แพร่ระบาด

ADB หั่นจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 2.6% สวนทางภูมิภาคเติบโตดี 4.9%

ลดจีดีพี 'ไทย' จาก 3.3% เหลือ 2.6%

ADB ยังได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของ "ประเทศไทย" ในปีนี้เหลือ 2.6% จากคาดการณ์เดิมในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วซึ่งให้ไว้ที่ 3.3% และคาดว่าปีหน้า 2568 จีดีพีไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้เป็น 3%

รายงานได้สรุปภาพรวมสำหรับประเทศไทยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวในปี 2566 เนื่องจากความล่าช้าด้านงบประมาณของรัฐบาลและอุปสรรคจากภายนอก แต่สำหรับในปีนี้และปีหน้า การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของการท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐที่สูงขึ้น และการฟื้นตัวของภาคการส่งออกสินค้า จะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตในปี 2567 และ 2568

สำหรับปัจจัยที่ถือเป็น "ความเสี่ยง" ต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยนั้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่เป็นความเสี่ยงขาลง (downside) ต่อจีดีพีของไทย ส่วนการพัฒนาอีโคซิสเต็มที่ดีสำหรับการเปลี่ยนผ่านสีเขียวถือเป็นความท้าทายในระยะกลางที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในอนาคต 

ในขณะที่โครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" อาจเป็นปัจจัยขาขึ้น (upside) ที่ส่งผลดีต่อแนวโน้มจีดีพี เนื่องจากเป็นการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภาคเอกชนในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวจะสร้างภาระทางการคลังให้รัฐบาลเป็นจำนวนมหาศาลถึง 5 แสนล้านบาท หรือราว 2.6% ของจีดีพีประเทศไทย