หุ้น 'แอปเปิ้ล' ปิดดิ่งกว่า 4% หลังถูกฟ้องข้อหาผูกขาดตลาด

หุ้น 'แอปเปิ้ล' ปิดดิ่งกว่า 4% หลังถูกฟ้องข้อหาผูกขาดตลาด

ราคาหุ้นของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ปิดร่วงลงกว่า 4% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศฟ้องบริษัทในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด

ราคาหุ้นแอปเปิ้ล (AAPL) ปิดตลาดในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ร่วงลง 4.09% สู่ระดับ 171.37 ดอลลาร์ หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศฟ้องบริษัทในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด

บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ออกแถลงการณ์ว่า จะยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดี หลังจากที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศฟ้องบริษัทในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด

แอปเปิ้ล ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับคำฟ้อง ซึ่งจะปิดกั้นการออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค

"คดีนี้ถือเป็นการคุกคามตัวตนของเรา และหลักการที่ทำให้แอปเปิ้ลแตกต่างจากตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด หากกระทรวงฯ ได้รับชัยชนะ สิ่งนี้จะขัดขวางความสามารถของเราในการสร้างเทคโนโลยีที่ลูกค้าต้องการเห็นจากแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นการบรรจบกันระหว่างฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และการให้บริการ นอกจากนี้ คดีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่อันตราย โดยเป็นการให้อำนาจแก่รัฐบาลในการกำหนดเทคโนโลยีของประชาชน" โฆษกของแอปเปิ้ล ระบุ

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า แอปเปิ้ลผูกขาดตลาดสมาร์ทโฟนจนส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่น และบริษัทคู่แข่ง ขณะที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทนับตั้งแต่ iPhone, Apple Watch ไปจนถึง Apple Pay ต่างก็สนับสนุนพฤติกรรมการผูกขาดของบริษัท

"ทุกสิ่งที่แอปเปิ้ลดำเนินการล้วนมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งต่อการผูกขาดในธุรกิจสมาร์ทโฟนของตนเอง" คำฟ้องที่มีการยื่นต่อศาลแขวงนิวเจอร์ซี ระบุ

แถลงการณ์จากกระทรวงฯ ระบุว่า ในความพยายามที่จะให้ผู้บริโภคซื้อ iPhone บริษัทแอปเปิ้ลได้ปิดกั้นแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับการส่งข้อความที่มาจากแพลตฟอร์มอื่น และจำกัดความสามารถของสมาร์ทวอทช์และวอลเล็ตของบริษัทอื่นในการทำงานร่วมกับระบบของ iPhone รวมทั้งปิดกั้นโปรแกรมที่ไม่ได้อยู่ใน App Store และการให้บริการสตรีมมิงบนคลาวด์

นอกจากนี้ แถลงการณ์ระบุว่า บริษัทออกแบบให้ Apple Watch ทำงานร่วมกับ iPhone เท่านั้น โดยไม่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ในระบบ Android ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่ซื้อ Apple Watch จะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากพวกเขาไม่ซื้อ iPhone ต่อไป

ขณะเดียวกัน แอปเปิ้ลขัดขวางการให้บริการสตรีมมิงบนคลาวด์บนแพลตฟอร์มของ App Store ทำให้ผู้บริโภคที่ใช้ iPhone ไม่สามารถเข้าถึงวิดีโอเกมที่มีคุณภาพสูง