ถอดรหัสชัยชนะ 'วลาดิมีร์ ปูติน' สะเทือนโลก 'สี จิ้นผิง' แสดงความยินดี

สำนักข่าว RIA ของทางการรัสเซียรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ 99% ประธานาธิบดีปูตินได้คะแนนเสียง 87.33% แต่สิ่งที่น่าสนใจคือคำปราศรัยประกาศชัยชนะที่เขาแถลงกับผู้สนับสนุนในกรุงมอสโก เมื่อวันอาทิตย์ (17 มี.ค.) บุรุษเหล็กรัสเซียกล่าวว่า เขาจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครนและจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพรัสเซียมากยิ่งขึ้น

“เรามีงานมากมายรออยู่ข้างหน้า แต่เมื่อเรารวมกันเป็นหนึ่ง ไม่ว่าใครอยากข่มขู่กดขี่เรา ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ ตอนนี้ก็ไม่สำเร็จ และในอนาคตก็จะไม่มีวันสำเร็จ” ปูตินกล่าว ท่ามกลางเสียงเฮรับ “ปูติน ปูติน ปูติน” เมื่อเขาขึ้นเวที และ “รัสเซีย รัสเซีย รัสเซีย” เมื่อแถลงจบ

• เลือกตั้งรัสเซียเป็นประชาธิปไตย

การเลือกตั้งครั้งนี้มีการประท้วงทั้งในและต่างประเทศ ได้แรงบันดาลใจจากอเล็กซี นาวัลนี แกนนำฝ่ายค้านที่เพิ่งเสียชีวิตในเรือนจำอาร์กติกเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอ็นบีซีของสหรัฐ ตั้งคำถามปูตินว่า การได้รับเลือกตั้งกลับมาครั้งนี้เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ เจ้าตัวใช้โอกาสนี้วิจารณ์การเมืองและระบบยุติธรรมของสหรัฐทันที

“ทั้งโลกกำลังหัวเราะเยาะกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น (ในสหรัฐ) นี่คือหายนะไม่ใช่ประชาธิปไตย การใช้ทรัพยากรในการบริหารงานไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยุติธรรมหรืออื่นๆ ไปโจมตีผู้สมัครประธานาธิบดีคนหนึ่ง อย่างนี้เป็นประชาธิปไตยเหรอ?” ปูตินตอบคำถามสื่อสหรัฐ เห็นได้ชัดว่าเขาหมายถึงคดีอาญาสี่คดีที่เล่นงานโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน

• ความสำคัญของการเลือกตั้ง 

การเลือกตั้งรัสเซียเกิดขึ้นสองปีนับจากปูตินสร้างความขัดแย้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในยุโรป ด้วยการสั่งรุกรานยูเครน สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุ แม้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปูตินต้องได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีแน่ๆ เพราะเขาควบคุมประเทศไว้ได้หมด และไม่มีใครกล้าขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่แท้จริง กระนั้นอดีตเคจีบีรายนี้ยังต้องการใช้การเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า ชาวรัสเซียสนับสนุนตนอย่างท่วมท้น

ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งรัสเซียชี้ว่า ตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิทั่วประเทศตอนปิดหีบเลือกตั้งอยู่ที่ 74.22% มากกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2561 ที่อัตราการใช้สิทธิอยู่ที่ 67.5%

ในจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 114 ล้านคนไม่มีการนับตัวเลขว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปประท้วงมากเท่าใด ขณะที่ทางการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเข้าดูแลหลายหมื่นนาย

ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งหลายแห่งในกรุงมอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเยกาเตรินเบิร์ก เพิ่มขึ้นทุกขณะโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ผู้คนออกมาเข้าแถวรอเลือกตั้งหลายร้อยคน บางที่มากหลายพันคน

บางคนบอกว่าพวกเขากำลังประท้วง แต่ก็มีสัญญาณบ่งบอกเพียงเล็กน้อยว่าเขาไม่ใช่ผู้ใช้สิทธิทั่วไป

• ชนวนยูเครนร้าวลึก

สงครามยูเครนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลมอสโกกับชาติตะวันตกร้าวลึกที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติขีปนาวุธคิวบาในปี 2505 ปูตินเตือนบ่อยๆ ถึงความเสี่ยงเกิดสงครามนิวเคลียร์ แต่ก็ย้ำว่า ยังไม่จำเป็นที่ต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน

เดือนก่อนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง กล่าวว่า เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการส่งทหารบกเข้าไปในยูเคนในอนาคต ขณะที่ชาติตะวันตกหลายชาติพยายามไม่เอาตัวไปผูกมัด แม้ชาติอื่นๆ โดยเฉพาะยุโรปตะวันออกแสดงการสนับสนุนการส่งทหารเข้าไปในยูเครน 

• วิวาทะปูติน-มาครง

ความเห็นของมาครงถูกนักข่าวนำไปถามปูตินหลังชนะเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ถึงความเสี่ยงและความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะขัดแย้งกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ปูตินได้ทีฟาด

“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ในโลกสมัยใหม่ ทุกคนเห็นชัดแล้วว่า อีกก้าวเดียวก็จะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 เต็มรูปแบบแล้ว ผมคิดว่าแทบไม่มีใครสนใจเรื่องนี้” ปูตินกล่าวและว่าตอนนี้ทหาร NATO อยู่ในยูเครนอยู่แล้ว รัสเซียเจอทั้งทหารที่พูดภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสในสนามรบ พวกเขากำลังเสียชีวิตกันเป็นจำนวนมากซึ่งไม่ใช่เรื่องดี

• ความเห็นนักวิเคราะห์

พาเวล แดนิลิน ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการวิเคราะห์การเมือง ในกรุงมอสโกซึ่งให้คำปรึกษาแก่ทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ผลการเลือกตั้ง “เปิดทุกโอกาสให้ปูตินทำทุกอย่าง แม้แต่ฉากทัศน์รุนแรงที่สุดในยูเครน คะแนนที่สูงเป็นประวัติการณ์เป็นเครื่องรับรอบว่า ประชาชนเสียงข้างมากสนับสนุนปูติน”

ด้านมาเรีย สเนโกวายา นักวิจัยอาวุโส โครงการยุโรป รัสเซีย และยูเรเซีย ศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษาในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า ทำเนียบเครมลินได้ผลการเลือกตั้งโดยอาศัย “การโกงและฉ้อฉล” เป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า สังคมรัสเซียเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้“การต่อสู้อย่างยาวนานของปูติน ที่ไม่ใช่แค่การสู้กับยูเครนแต่เป็นโลกตะวันตกและระเบียบโลกเสรีในภาพกว้าง”

แหล่งข่าววงในไม่เปิดเผยตัวตนห้าคนเผยว่า ปูตินผู้ฮึกเหิมกำลังเตรียมการเผชิญหน้ายาวนานกับโลกตะวันตก

นิโคไล เปตรอฟ นักวิจัยรับเชิญจากกลุ่มคลังสมอง SWP ในกรุงเบอร์ลิน กล่าวว่า การเลือกตั้งเปิดให้ทำเนียบเครมลินแสดงให้ชนชั้นนำรัสเซียเห็นการสนับสนุนต่อปูติน

“สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเครมลินคือปูตินยังเหลือภาพลักษณ์ดีๆ และชัยชนะที่แท้จริงให้สัมผัสได้แม้หลอกลวงก็ตาม”

อังเดร โคเลสนิคอฟ นักวิจัยอาวุโสจากมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ระบุ “ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ระบอบปูตินได้สร้างทุกองค์ประกอบขึ้นมาใหม่เพื่อปรับตัวเข้ากับภาวะสงครามถาวร”

• จีนชื่นชม-ตะวันตกเมิน

หลิน เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันจันทร์ (18 มี.ค.) แสดงความยินดีต่อชัยชนะในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน

“จีนและรัสเซียต่างเป็นเพื่อนบ้านใหญ่สุดของกันและกัน และเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมในยุคใหม่ เราเชื่อมั่นว่าภายใต้การชี้นำทางยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและประธานาธิบดีปูติน ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียจะเดินหน้าต่อไป”โฆษกกล่าวพร้อมย้ำว่า ปีนี้ครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ

ด้านสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซีย รายงานว่า ปูตินเองก็ชื่นชมรัฐบาลปักกิ่งระบุ “เชื่อมั่นว่าในอนาคตอันใกล้จะเห็นแต่ความสัมพันธ์ที่เพิ่มพูนและแข็งแกร่งระหว่างกัน ประสบความสำเร็จร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนจีนและรัสเซียสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสอดคล้องต้องกันกับผลประโยชน์แห่งรัฐ นี่เป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมกัน โครงสร้างเศรษฐกิจจีนกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่นวัตกรรม เราเผชิญงานเดียวกันในรัสเซีย”

ทั้งนี้ จีนและรัสเซียเคยเป็นพันธมิตรร่วมอุดมการณ์สังคมนิยม แต่หลายสิบปีหลังของศตวรรษที่ 20 ความสัมพันธ์ปั่นป่วน เพิ่งมาใกล้ชิดกันในช่วงหลังเมื่อมิตรภาพของทั้งสองสะท้อนภาพการต่อต้านโลกตะวันตกนำโดยสหรัฐ แม้แต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียสะเทือนความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับชาติตะวันตก แต่จีนไม่เคยประณาม

ประเทศตะวันตกมองว่า ความคลุมเครือของจีนทำให้ปูตินมีหลังพิงด้านการเมืองและการทูตในการรุกรานยูเครน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจีนไม่ยืนยันว่า ประธานาธิบดีสี ที่เคยเรียกปูตินว่า “เพื่อนสนิท” ได้แสดงความยินดีกับผู้นำรัสเซียเป็นการส่วนตัวหรือไม่

ไม่นานหลังกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงข่าว สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างสำนักข่าวทางการจีนว่า ประธานาธิบดีสีได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีไปถึงประธานาธิบดีปูติน เมื่อวันจันทร์ ระบุ การได้รับเลือกตั้งกลับมาอีกครั้งหนึ่ง “สะท้อนให้เห็นอย่างเต็มที่ถึงการสนับสนุนของประชาชนชาวรัสเซีย ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประชาชนรัสเซียหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเอาชนะความท้าทายต่างๆ ผมเชื่อว่าภายใต้การนำของท่าน รัสเซียจะสามารถบรรลุความสำเร็จใหญ่กว่าเดิมในการพัฒนาและสร้างชาติ”

นอกเหนือจากจีน ประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซีของอิหร่าน ก็แสดงความยินดีกับชัยชนะเด็ดขาดของประธานาธิบดีปูตินเช่นกัน 

ด้านผู้นำโลกตะวันตกต่างประสานเสียงว่าการเลือกตั้งรัสเซียไม่เสรีและไม่เป็นธรรมเนื่องจากไม่มีคู่แข่งที่ชัดเจน