IMF ชี้จีดีพี 'เวียดนาม' โตเท่ามาเลย์แล้ว อีก 14 ปี แซงหน้าประเทศไทย

IMF ชี้จีดีพี 'เวียดนาม' โตเท่ามาเลย์แล้ว อีก 14 ปี แซงหน้าประเทศไทย

IMF เผยมูลค่าจีดีพี 'เวียดนาม' ปี '66 โตขึ้นเป็นที่ 5 ในอาเซียนเทียบเท่า 'มาเลเซีย' แล้ว ขณะที่สำนักวิจัยในอังกฤษ CEBR ชี้อีก 14 ปี จะแซงหน้า 'ประเทศไทย'

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของ "เวียดนาม" ในปี 2566 จะขยายตัวแตะระดับ 4.333 แสนล้านดอลลาร์ หรือสูงที่สุดเป็นอันดับ 5 ในกลุ่มประเทศอาเซียน
 

มูลค่าจีดีพีดังกล่าวจะส่งผลให้เวียดนามมีขนาดเศรษฐกิจเทียบเท่ากับประเทศ "มาเลเซีย" ซึ่งมีมูลค่าจีดีพี 4.3335 แสนล้านดอลลาร์ และภายในสิ้นปี 2567 ไอเอ็มเอฟคาดว่ามูลค่าจีดีพีของเวียดนาม จะขยับขึ้นไปแตะ 4.697 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะยังคงอยู่ในอันดับ 5 ต่อไป

สำนักข่าวซินหัว ระบุว่าจากข้อมูลประมาณการล่าสุดของไอเอ็มเอฟ มูลค่าจีดีพีของ 10 ประเทศอาเซียนคาดว่าจะขยายตัวแตะ 4.697 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2567 นำโดย "อินโดนีเซีย" ที่ 1.54 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย "ไทย" เป็นอันดับ 2 ที่ 5.433 แสนล้านดอลลาร์, สิงคโปร์ 5.209 แสนล้านดอลลาร์ และฟิลิปปินส์ 4.759 แสนล้านดอลลาร์

ทางด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ CEBR ในสหราชอาณาจักรประเมินว่า เศรษฐกิจเวียดนามอาจขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต โดยภายในอีก 9 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2576 จีดีพีเวียดนามจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวไปอยู่ที่ 1.05 ล้านล้านดอลลาร์ ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก 

CEBR ยังประเมินด้วยว่าภายในอีก 14 ปี หรือปี 2581 มูลค่าจีดีพีเวียดนามจะพุ่งขึ้นไปแตะ 1.56 ล้านล้านดอลลาร์ ก้าวขึ้นสู่เขตเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับที่ 21 ของโลก และแซงหน้า "ประเทศไทย" ซึ่งจะมีจีดีพีขยายตัวอยู่ที่ 1.313 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนจะก้าวขึ้นไปเป็นประเทศรายได้สูง ภายในปี 2588 

ข้อได้เปรียบของเวียดนามที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็วคือ การมีประชากรวัยหนุ่มสาวที่เป็นฐานแรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัวได้เฉลี่ยปีละ 6.7% ระหว่างปี 2567-2571 ก่อนจะปรับตัวลงเล็กน้อยที่เฉลี่ย 6.4% ภายใน 9 ปีหลังจากนั้น 
 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์