สิงคโปร์จ่อโกยรายได้จากคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์ ฉ่ำ ๆ 13,000 ล้านบาท ใน 6 วัน

สิงคโปร์จ่อโกยรายได้จากคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์ ฉ่ำ ๆ 13,000 ล้านบาท ใน 6 วัน

เริ่มแล้วคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์ในสิงคโปร์ นักวิเคราะห์คาด 6 วันนี้ สิงคโปร์จ่อโกยรายได้ด้านการท่องเที่ยว แบบฉ่ำ ๆ 9,000-13,000 ล้านบาท !

เริ่มแล้ว ! คอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์ที่สิงคโปร์ จัด 6 วัน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 2 มี.ค. จากนั้นจัดอีกในวันนี้ และวันที่ 4,7,8, 9 มี.ค. สวิฟตี้จากหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างเดินทางไปสิงคโปร์ในช่วงนี้ แน่นอนว่านอกจากนักร้องสาวตัวแม่จะมีรายได้มากมายจากคอนเสิร์ตในสิงคโปร์ครั้งนี้ ธุรกิจท้องถิ่นและคนในพื้นที่ก็มีรายได้สะพัดมหาศาลเช่นกัน

ชัว ฮัก บิน นักเศรษฐศาสตร์จากเมย์แบงก์ คาดว่า ผู้ที่มาชมคอนเสิร์ต 70% หรือราว 210,000 คน จาก 300,000 คน มาจากต่างประเทศ โดยจะมีการใช้จ่ายในโรงแรม อาหาร และสิ่งบันเทิงต่าง ๆ สูงถึง 350-500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 9,300-13,200 ล้านบาท

 

ด้านนักวิเคราะห์จากธนาคารเอชเอสบีซี เผยว่า โรงแรมในสิงคโปร์ขณะนี้มีราคาที่พักสูงกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19

ส่วนเอ็ดมัน อ่อง ผู้จัดการทั่วไปของทริปดอทคอมสิงคโปร์ บอกว่า ตั้งแต่วันที่ 1-9 มี.ค. นี้ ราคาตั๋วเที่ยวบินจากต่างประเทศที่เดินทางไปยังสิงคโปร์แพงขึ้นเกือบสามเท่า และยอดจองที่พักเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า ขณะที่ยอดจองสถานที่ท่องเที่ยวและทัวร์พึ่งสูงขึ้นมากกว่า 2,300%

ฟิลิปปินา ชาร์ลิน ซุยโซ สวิฟตี้ชาวฟิลิปปินส์ ที่เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ และเพื่อน ๆ ของเธออีก 17 คน เดินทางไปสิงคโปร์เพื่อดูคอนเสิร์ตสวิฟต์ด้วยกัน โดยซุยเผยว่า เธอมีค่าใช้จ่ายตั๋วเที่ยวบิน ที่พัก และบัตรคอนเสิร์ตรวมกันอย่างน้อย 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 160,000 บาท) ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่ารายได้ครัวเรือนรายปีโดยเฉลี่ยเล็กน้อย

“นี่เป็นเงินก้อนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการไปคอนเสิร์ตของฉัน ฉันไม่เคยใช้จ่ายเงินเยอะขนาดนี้เพื่อใครเลย มีแค่สวิฟต์เท่านั้น” ซุยโซ กล่าว

ซุยซื้อตั๋วคอนเสิร์ตแบบวีไอพีราคามากกว่า 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (มากกว่า 26,000 บาท) และวางแผนดูคอนเสิร์ต 3 วัน จากทั้งหมดที่มี 6 วัน

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจสิงคโปร์ชะลอตัวสู่ระดับ 1.1% ในปีก่อน จากระดับ 3.8% ในปี 2566 แต่รัฐบาลคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะโต 1-3%

อย่างไรก็ตาม การจัดคอนเสิร์ตเทเลอร์สวิฟต์ในสิงคโปร์ที่เดียวทั้ง 6 วัน ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสวิฟตี้หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงผู้นำด้วย

โดยนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เคยกล่าวไว้ว่า สิงคโปร์จ่ายเงินเพื่อขอให้จัดคอนเสิร์ตแค่ในประเทศตนเอง ขณะที่ ส.ส.ฟิลิปปินส์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่สิงคโปร์ทำ “ไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนบ้านที่ดีควรทำ” ด้านรัฐบาลสิงคโปร์ไม่ได้ออกมายืนยันเงื่อนไขผูกขาดคอนเสิร์ตดังกล่าว

ทั้งนี้ นับตั้งแต่มาตรการล็อกดาวน์ยกเลิก สิงคโปร์ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมให้จัดคอนเสิร์ตมากมาย อาทิ คอนเสิร์ต Blackpink, Coldplay และ Ed Sheeran

อ้างอิง:  South China Morning Post