'เบซอส' เล็งขายหุ้น 'Amazon' 50 ล้านหุ้น คาดโกยเงิน 3 แสนล้านบาท

'เบซอส' เล็งขายหุ้น 'Amazon' 50 ล้านหุ้น คาดโกยเงิน 3 แสนล้านบาท

“เจฟฟ์ เบซอส” มหาเศรษฐีเจ้าของ Amazon (อเมซอน) มีแผนขายหุ้น Amazon ถึง 50 ล้านหุ้นใน 12 เดือนข้างหน้า หวังโกยเงินสดนับแสนล้านบาทช่วงราคาหุ้นบริษัทกำลังพุ่งแรงจนทำให้เขาจ่อขึ้นแท่นเศรษฐีรวยที่สุดในโลก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อไม่นานนี้ว่า เจฟฟ์ เบซอส มหาเศรษฐีแถวหน้าของโลกและผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon.com Inc. (อเมซอนดอทคอม อิงค์) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของสหรัฐ เตรียมขายหุ้น Amazon มากถึง 50 ล้านหุ้นใน 12 เดือนข้างหน้า หลังบริษัทรายงานยอดขายออนไลน์เติบโตดีที่สุดนับตั้งแต่ยุคโควิด-19 ทำให้ราคาหุ้นพุ่งเกือบ 8% ไปแตะที่ราว 172 ดอลลาร์ต่อหุ้นหลังปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (2 ก.พ.) ที่ผ่านมา

บริษัท Amazon แจ้งต่อตลาดเมื่อวันศุกร์ว่า เบซอส วัย 60 ปี อนุมัติแผนที่จะขายหุ้นจำนวน 50 ล้านหุ้นภายในช่วงเวลาใดก็ได้ก่อนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 นั่นหมายความว่า เบซอสจะได้รับเงินราว 8,600 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.07 แสนล้านบาท) หากคำนวณจากราคาหุ้นปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Amazon ยังไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อแผนขายหุ้นของผู้ก่อตั้งบริษัท

ข้อมูลจากดัชนีมหาเศรษฐีพันล้านบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) ระบุว่า มูลค่าความมั่งคั่งของเบซอสทะยานอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นอีก 12,100 ล้านดอลลาร์ในวันศุกร์ จนไล่จี้ “อีลอน มัสก์” ผู้ก่อตั้ง Tesla (เทสลา) ค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกขณะนี้ เหลือเพียง 8,100 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

นับถึงวันที่ 5 ก.พ. 2567 มัสก์ ซึ่งครองอันดับ 1 มีมูลค่าความมั่งคั่งอยู่ที่ 2.05 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่อันดับ 2 อย่างเบซอสมีความมั่งคั่งอยู่ที่ 1.97 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลใน Bloomberg Billionaires Index

\'เบซอส\' เล็งขายหุ้น \'Amazon\' 50 ล้านหุ้น คาดโกยเงิน 3 แสนล้านบาท
- 5 อันดับแรกในทำเนียบมหาเศรษฐีรวยที่สุดในโลก ณ วันที่ 5 ก.พ.67 (ที่มา: Bloomberg Billionaires Index) -

ทั้งนี้ เบซอสไม่เคยกลับไปรั้งอันดับ 1 บุคคลที่รวยที่สุดในโลกอีกเลย นับตั้งแต่หล่นจากบัลลังก์เมื่อปี 2564

ขณะเดียวกัน ช่องว่างความมั่งคั่งระหว่างเบซอสกับมัสก์แคบลงเรื่อย ๆ เนื่องจากหุ้นของ Amazon และ Tesla เคลื่อนไหวสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง โดยหุ้น Amazon ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งหนุนให้ดัชนีหุ้นสหรัฐพาเหรดพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่หุ้น Tesla เผชิญมรสุมรุมเร้าจากข่าวเชิงลบแทบจะรายวัน และความมั่งคั่งของมัสก์ยังได้รับผลกระทบจากการที่ศาลรัฐเดลาแวร์ตัดสินให้ค่าตอบแทนก้อนโต 55,000 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 2 ล้านล้านบาท) ที่เขาได้รับจากบริษัท Tesla “เป็นโมฆะ” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากศาลมองว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ถือหุ้น

อ้างอิง: Bloomberg