ล้วงลึกปั่นข่าวลวง ‘สงครามกลางเมือง’ ในเท็กซัส เป็นกระแสโซเชียลจีน

ล้วงลึกปั่นข่าวลวง ‘สงครามกลางเมือง’ ในเท็กซัส เป็นกระแสโซเชียลจีน

ท่ามกลางความเห็นขัดแย้งระหว่างเท็กซัส กับทำเนียบขาวรุนแรงขึ้น ต่อปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ดูเรื่องราวจะไปกันใหญ่ เมื่อมือดีปล่อยข่าวลวงในจีนว่า เมืองโลนสตาร์ประกาศสงครามเป็นทางการ หวังแยกตัวจากสหรัฐ แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับจีน

Key Points :

  • มีผู้อพยพข้ามแดนผิดกฎหมายเข้ามายังสหรัฐ มากกว่า 6.3 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงเป็นประวัติการณ์ และได้สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรง ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส
  • กระแสในโซเชียลมีเดียจีน ระบุ แอบบอตต์กำลังตั้งตัวเป็นปรปักษ์ และวางแผนทำสงครามกับรัฐบาลกลางสหรัฐ
  • สื่อจีนมักจะนำเสนอประเด็นความแตกแยกทางการเมืองของสหรัฐอยู่เป็นประจำ ประกอบกับโลกแบ่งขั้วกันมากขึ้น ยิ่งตอกย้ำความเชื่อว่า สหรัฐจวนเจียนเกิดความแตกแยกภายในประเทศ

 

ตอนนี้เหตุการณ์ในเท็กซัส กำลังนำไปสู่ความแตกแยกที่ฝั่งรากลึก จนจะไปถึงจุดสร้างความไม่สงบในสังคมสหรัฐ

นับตั้งแต่ต้นปี 2564 มีผู้อพยพข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายเข้ามายังสหรัฐ มากกว่า 6.3 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และได้สร้างความขัดแย้งที่รุนแรง ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส

 

ปฏิบัติการโลนสตาร์ แยกตัวจากสหรัฐ

แอบบอตต์ ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งปฏิบัติการโลนสตาร์ เขาพยายามสกัดกั้นผู้อพยพไม่ให้ลักลอบเข้าเมืองมายังเท็กซัส ด้วยการติดตั้งแนวรั้วลวดหนามในเมืองอีเกิ้ลพาส ระยะทางยาว 48 กิโลเมตร

ศาลสหรัฐมีคำสั่งค้านการดำเนินการของแอบบอตต์ ซึ่งมาจากพรรครีพับลิกัน ถึงอย่างไรเขายังคงให้คำมั่นจะวางแนวรั้วลวดหนามเพิ่ม เพื่อป้องกัน “การรุกราน” ดังกล่าว

ในอีกประเทศหนึ่ง ได้มีปั่นกระแสในโซเชียลมีเดียจีนว่า แอบบอตต์กำลังตั้งตัวเป็นปรปักษ์ และวางแผนทำสงครามกับรัฐบาลสหรัฐ

โซเชียลจีนมีการโพสต์ข้อความที่ติดแฮชแท็ก #TexasDeclaresAstateOfWar ซึ่งมีผู้อ่าน และแชร์หลายพันครั้งในซินล่าง เว่ยป๋อ โดยที่บางข้อความมาจากผู้โพสต์ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน

 

ชาวเน็ตจีน ชอบอเมริกันขัดแย้ง

เหวิน หาว ผู้สื่อข่าววอยส์ออฟอเมริกา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบิดเบือนข้อมูลในสังคมออนไลน์จีนโพสต์ใน X ว่า ข่าวใหญ่เกี่ยวกับสหรัฐ บนโลกอินเทอร์เน็ตจีนในช่วงไม่กี่วันมานี้ระบุว่า ผู้ว่าฯเท็กซัสประกาศทำสงครามกับรัฐบาลกลางนั้น “ไม่เป็นความจริง”

หากแต่ชาวเน็ตจีนต่างพากันเชียร์ให้ความย่อยยับเกิดขึ้นกับสหรัฐ

หลังจากนั้นดูเหมือนว่า เว่ยป๋อได้จำกัดการมองเห็นเนื้อหาดังกล่าว หากค้นหาโพสต์ที่ติดแฮชแท็ก #TexasDeclaresAstateOfWar ก็จะแสดงข้อความระบุว่า “ตามกฎหมายข้อบังคับ และนโยบายที่เกี่ยวข้อง ทำให้เนื้อหาในหัวข้อนี้ไม่สามารถแสดงได้”

ถึงอย่างไร ยังมีโพสต์อีกจำนวนมากที่ยังพบได้ในเว่ยป๋อ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมมีผู้ใช้มากกว่า 600 ล้านคนต่อเดือน

ตัวอย่างโพสต์หนึ่งอ้างว่าเป็นหน่วยบัญชาการทหารเท็กซัส ที่มีการชักธงเหนือยอดเสาระบุข้อความว่า Come and Take it ถือสร้างการรับรู้กันว่า “รัฐเท็กซัสต้องการไปสู่เอกราช

 

จินตนาการ เหนือข้อเท็จจริง

ในทางกลับกัน การที่เว่ยป๋อเซ็นเซอร์โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้ผู้ใช้ชาวจีนเข้าถึงข้อเท็จจริงได้ยาก จึงทำให้ผู้ใช้จำนวนมากเข้าใจไปว่า เท็กซัสตกอยู่ในภาวะสงครามแล้ว

บางคนถึงกับคิดว่าสถานการณ์ยูเครนอาจเกิดขึ้นกับเท็กซัส เพราะถ้าหากสังเกตทั้งยูเครน และเท็กซัสมีดินแดนที่มีรูปร่างใกล้เคียงกัน

การปล่อยข่าวว่า มีสงครามกลางเมืองผ่านสื่อ  ทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งปกติแล้วสื่อจีนมักจะนำเสนอประเด็นความแตกแยกทางการเมืองของสหรัฐอยู่เป็นประจำ ประกอบกับโลกแบ่งขั้วกันมากขึ้น ยิ่งตอกย้ำความเชื่อที่ว่า สหรัฐจวนเจียนเกิดความแตกแยกภายในประเทศ

 

คำว่า สงครามกลางเมือง ถูกใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหนังสือพิมพ์จีน นับตั้งแต่เหตุจลาจลที่แคปิตอลฮิลล์ เมื่อเดือนม.ค.2564

 

ล้วงลึกปั่นข่าวลวง ‘สงครามกลางเมือง’ ในเท็กซัส เป็นกระแสโซเชียลจีน

 

จีนบล็อกสื่อต่างชาติ ใครปล่อยข่าวลวง

เบื้องลึกเบื้องหลังมีที่มา แม้สื่อต่างประเทศในจีนส่วนใหญ่จะถูกบล็อก แต่กลับกลายว่า ผู้ใช้โซเชียลในจีนกลับสามารถอ่านรายงานของรอน เดอแซนติส ผู้ว่าฯฟลอริดาที่มาจากพรรครีพับลิกัน เตรียมส่งสมาชิกกองกำลังพิทักษ์ประเทศ 1,000 นายไปยังเท็กซัส แล้วการเผยแพร่รายงานลักษณะนี้หมายความว่าอย่างไร

จีนมักเผยแพร่ข้อมูลเพื่อตอบโต้รัฐบาลจากชาติตะวันตกที่มักออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงวิจารณ์จีนเกี่ยวกับการจัดการปัญหาในซินเจียง ฮ่องกง หรือไต้หวัน

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับสหรัฐเพียงประเทศเดียว แต่เป็นเรื่องปกติในโซเชียลจีน เช่น ข่าวสกอตแลนด์พยายามแยกตัวจากสหราชอาณาจักร  ก็ตอนที่มีนักการเมืองอังกฤษวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีน

สำหรับเรื่องนี้ รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ยืนยันว่า ไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ เพราะนี่ไม่ใช่หลักการนโยบายต่างประเทศของจีน ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ

ที่มา : BBC

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์